เปิดคำทำนาย ‘บิ๊กทิน’ จุดเสี่ยง ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ โอกาสเกิดรัฐประหาร?
"รัฐบาลเพื่อไทยจะอยู่ครบ 4 ปี แต่อาจมีบางช่วงที่โคลงเคลง เช่น รอยต่อ สว. มีคนสร้างสถานการณ์ ส่วนเปลี่ยนตัว "นายกฯ" ไม่น่าจะเกิดเร็วๆนี้"
การกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในรอบ 8 ปีของรัฐบาลเพื่อไทย ท่ามกลางมรสุมรุมเร้าหลายด้านที่ต้องเผชิญในปี 2567 แต่แกนนำคนสำคัญของพรรค “สุทิน คลังแสง” ซึ่งบทบาทหนึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลคนในกองทัพ เชื่อมั่นว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา จะทำให้พรรคเพื่อไทยฝ่าฟันปัญหาต่างๆไปได้
"สุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์"กรุงเทพธุรกิจ"ว่า สิ่งต่างๆ ที่ตั้งข้อสังเกตกัน ทั้งการชี้แจงงบประมาณประจำปี 2567 ศึกซักฟอก นิรโทษกรรม ประเด็นคุณทักษิณ ชินวัตร การชุมนุม พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์มาแล้วทั้งสิ้น เราเคยผ่านมาแล้วหลายยุค ที่สำคัญเราเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน ดังนั้นการเป็นรัฐบาลมาหลายสมัย เรื่องเหล่านี้ถือว่าไปรอด
พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า ประชาชนยังให้การสนับสนุน และตั้งความหวังไว้กับพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีความหวังที่อื่น หลายนโยบาย แม้จะถูกลดทอนความน่าเชื่อถือจากฝ่ายต่างๆ ตนเชื่อว่าในปี 2567 นี้ ประชาชนยังให้ความร่วมมือ ไม่ได้ขับไสไล่ส่งรัฐบาลเพื่อไทยแน่นอน
อีกทั้งองค์กรของพรรคเพื่อไทย มีการปรับปรุงให้เป็นหนึ่งเดียวที่เข้มแข็งภายใต้การนำของคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
ส่วนองค์กรทางรัฐบาล มีคนที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นหากพรรคแข็ง รัฐบาลแข็ง ตนเชื่อว่าไปได้
ในส่วนของการชี้แจงงบประมาณ 2567 ก็ยังเป็นงบประมาณที่รัฐบาลชุดที่แล้วจัด เราก็ปรับไม่มาก เพราะฉะนั้นจะมาโยนความผิดให้รัฐบาลเพื่อไทยทั้งหมดคงไม่ได้ โดยเฉพาะกองทัพ บริบทของโลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เชื่อว่ามีเหตุผลต้องอธิบายกับสังคมได้
สถานการณ์ของโลกขณะนี้ จะทำให้กระทรวงกลาโหมต้องจัดงบประมาณแบบภาวะปกติ ไม่ง่าย แต่เราก็เชื่อว่า เราจะอธิบายได้ รวมถึงกระทรวง ทบวง กรม อื่น ซึ่งงบประมาณเราก็ไม่ได้จัดเยอะ การกู้เงินก็เท่าที่จำเป็น และไม่ใช่รัฐบาลแรกที่กู้
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ศักยภาพของฝ่ายค้านกับรัฐบาลเพื่อไทยมีเช่นเดียวกัน แต่เราไม่ได้ประมาท เชื่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวลและในปีหน้านี้ประชาชนมีความหวัง และอาจจะได้รับผลดีต่อจากการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อไทยแล้ว เช่น นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ผลงานด้านการเกษตร ภาพรวมของเศรษฐกิจ จะเห็นการฟื้นตัว เพราะการที่รัฐบาล โดยเฉพาะสิ่งที่ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน วิ่งรอบอยู่ 4 เดือนที่ผ่านมา เพื่อทำให้เครื่องยนต์หลายตัวติด และจะติดในปีหน้านี้ และใกล้จะสำนึกผลแล้ว
สำหรับ พ.ร.บ.เงินกู้ ที่ถูกวิพากวิจารณ์ว่าอาจไม่ผ่านและเสี่ยงผิดกฎหมายนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะมีประสบการณ์มาเช่นกัน ส่วนเรื่อง เรื่องนิรโทษกรรม เราก็ยืนในจุดที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าเราปฏิเสธ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะรับทั้งผิดและชอบ ด้วยตัวเราคนเดียว เพื่อไทยไม่ใช่จำเลย
สุทิน ยังยอมรับว่าปีหน้านี้อาจได้เห็นการปรับ ครม.เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการบริหารงาน ซึ่งอาจบริหาร 6 เดือนแล้วปรับ ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนจะมีการเปลี่ยนม้ากลางศึก หรือเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือไม่นั้น
“ผมเชื่อว่ายังไม่เร็ว เพียงแต่สถานการณ์การเมืองในปีหน้าจะฉุกละหุก ในช่วงที่ สว.หมดอายุ และอาจจะมีการคัดเลือก สว.ชุดใหม่ ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้น ต้องประคับประคอง สถานการณ์ทางการเมืองจะไม่นิ่ง แต่ยังเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะตั้งรับได้”
"ส่วนการชุมนุมขับไล่ ผมเชื่อว่าไม่มี ไม่ถึงกับก่อม็อบตามภาษาคือฝูงชนที่บ้าคลั่ง แต่จะมีการประท้วงการต่อต้านกัน หรือแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยในหลายๆ เรื่อง เป็นธรรมดา เป็นกลุ่มคน ที่มีจุดยืนตรงข้ามรัฐบาล"
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ ม็อบกลุ่มไหนรับมือยากสุด เช่น พันธมิตร เสื้อหลากสี กปปส. ม็อบ 3 นิ้ว นายสุทิน กล่าวว่า “มันมิกซ์กันระหว่างม็อบพันธมิตร กับ กปปส. ตอนนั้นจึงหนักหน่อย และยังมีม็อบที่ไม่แสดงตัวเป็นกองกำลังใหญ่ ส่วนโอกาสที่ม็อบกลุ่มต่างๆ จะมิกซ์กันอีกรอบนั้น คงไม่ และเชื่อว่าถ้ารัฐบาลสร้างผลงานด้านที่ดี เช่น เศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาปากท้อง ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนได้ เราจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้เช่นกัน”
เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พรรคก้าวไกล มีประเด็นที่ล่อแหลม ม.112 ในฐานะที่ดูแลกองทัพ และมีหน้าที่ปกป้องพิทักษ์สถาบันมองอย่างไร สุทิน กล่าวว่า เป็นพัฒนาการทางสังคม คนรุ่นใหม่อาจจะคิดเรื่องนี้ได้ ก็ให้เขาคิดไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนทั้งประเทศจะต้องตัดสิน ทั้งบริบทใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีคนเห็นด้วย และคนคัดค้าน ทางสังคมซึ่งจะถ่วงดุลกัน ส่วนในสภาฯ ก็จะเป็นภาพเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็จะจบในสภาฯ ออกมาอย่างไร ก็เชื่อว่าประเด็นนี้จะจบได้
พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลเพื่อไทยจะอยู่ครบ 4 ปี แต่อาจมีบางช่วงที่โคลงเคลง เช่นรอยต่อ สว. อาจจะมีคนสร้างสถานการณ์ในช่วงนั้น เขย่าสถานการณ์
เมื่อถามว่า วันนี้พูดได้เต็มปากหรือไม่ว่า รัฐบาลเพื่อไทยหลุดบ่วงรัฐประหารแล้ว หลังโดนมา 2 ครั้ง สุทิน กล่าวว่า "ส่วนตัวมั่นใจ เพียงแต่จะบอกว่ามั่นใจ ทุกคนไม่เชื่อ แต่ผมมั่นใจว่า จากที่ได้สัมผัสกับกองทัพ กับทุกส่วน เคยมีส่วนร่วม การยึดอำนาจโอกาสเกิดขึ้นยากกว่าทุกครั้ง ยากกว่าเดิมอีก แต่ประเทศไทยก็ใช่ว่าจะไม่มี เพียงแต่เกิดยาก แต่รอบนี้ เปอร์เซ็นการเกิดน้อยมาก คิดว่าน้อยจริงๆ"
แม้ “สุทิน” จะมั่นใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยสามารถข้ามผ่านปัญหาต่างๆ ได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความไม่ประมาท และเตรียมพร้อม ตั้งรับทุกสถานการณ์