สวัสดีปีใหม่ 2567 รอ ‘เศรษฐา’ ทำตามสัญญา

เริ่มต้นวันแรกของปี 2567 ด้วยความหวังต่อสังคมและเศรษฐกิจที่จะดีขึ้น โดยในปี 2566 ประเทศไทยเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 จาก 2.5-3.0% เป็น 2.5% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปี 2565 ที่ขยายตัวได้ 2.6% โดยเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายตัวของประเทศไทยชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกและการท่องเที่ยว

ขณะที่ปัจจัยท้าทายจากต่างประเทศได้รับผลจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งแม้ปี 2566 สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง แต่ในปีที่แล้วมีสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดขึ้นหลายภูมิภาค โดยล่าสุดเกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกละกลุ่มฮามาส ซึ่งส่งผลกระทบให้คนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงความขัดแย้งที่มีผลต่อการโยกย้ายฐานการผลิต และยังมีความขัดแย้งใกล้ประเทศไทยอย่างเมียนมา 

ในปี 2567 ความท้าทายทั้งภายในและภายนอกที่รัฐบาลและคนไทยต้องเตรียมรับมือ โดยรัฐบาลได้ประกาศที่จะใช้นโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่หลังจากที่เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ต่ำกว่าศักยภาพในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าได้ศึกษานโยบายนี้มาอย่างดี ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะกลับคำจากเดิมจะใช้งบประมาณแผ่นดินมาเป็นการกู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแจก ถือเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยและอนาคตรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมว่ารัฐบาลรัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่การรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด

บางคนอาจจะลืมสิ่งที่นายเศรษฐาให้คำมั่นกับคนไทยผ่านรัฐสภาไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องคอยย้ำเตือนรัฐบาลว่ารัฐบาลได้สัญญาที่จะยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้นไม่ว่าจะมีแรงกดดันใดที่ทำให้รัฐบาลผ่อนแรงการยกระดับประเทศ รวมถึงการมีข้อเสนอจากภายในรัฐบาลหรือบุคคลภายนอกเพื่อให้กระทำการที่ทุจริตขอให้รัฐบาลละเว้นทุกกรณี เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศ