'สุริยะ' ยันรถไฟฟ้า20บ. ไม่ทำให้ขาดทุน มั่นใจอีก6เดือนรายได้พุ่ง-มีกำไร
รมว.คมนาคม ลุกแจงสภาฯ มั่นใจนโยบายรถไฟฟ้า20บาท ไม่ทำให้ขาดทุน ให้รอดูอีก6เดือน ทำระบบฟีดเดอร์พร้อม จะทำรายได้พุ่ง-มีกำไร
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ว่า บรรยากาศการอภิปรายของสส. ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง สส.ฝ่ายค้าน ได้ชี้ให้เห็นถึงการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศ ขณะเดียวกันในลำดับการอภิปรายของ สส.ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต่างลุกอภิปรายสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล เพราะมองว่าทำมาถูกทางที่จะช่วยแก้วิกฤตประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการพิจารณา พบว่ารัฐมนตรีได้ใช้สิทธิอภิปรายชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิงถึง โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ คำชี้แจงของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ต่อกรณีการปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายด้านการพัฒนาการคมนาคมและโลจิสติกส์ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง แถลงต่อรัฐสภา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เมื่อค่าใช้จ่ายลดลง ประชาชนสามารถออมเงินได้ อีกทั้งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคให้ประชาชนทุกระดับ เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งและพรรคเพื่อไทยมีนโยบายเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยมีสายสีแดงและสีม่วงที่รัฐบาลกำกับดูแล เราจึงดำเนินการในสองสายดังกล่าวก่อนจนเป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
"ที่สส. อภิปรายว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้ขาดทุนปีละหลายพันล้านนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดยก่อนหน้านี้รถไฟฟ้าทั้งสองสายขาดทุนวันละ 6.9 ล้านบาท แต่เมื่อมีนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ แม้ช่วงแรกรายได้อาจจะลดลงไปบ้าง แต่ไม่ถึง 3เดือนรายได้ของทั้งสองสาย เพิ่มขึ้น โดยผมมั่นใจว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า เมื่อระบบฟีดเดอร์ด้วยรถบัสไฟฟ้าติดแอร์อย่างดี เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางมาที่สถานีรถไฟฟ้า จะทำให้รายได้จากรถไฟฟ้าทั้ง 2สายจะสูงกว่ารายจ่าย และจะทำกำไรได้อย่างแน่นอน"นายสุริยะ ชี้แจง
นายสุริยะ ชี้แจงด้วยว่าส่วนการผลักดันนโยบาย 20 บาทไปยังรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ นั้น จะต้องมีการชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการให้เป็นไปตามสัญญา จึงต้องเร่งรัดผลักดันร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ เพื่อให้มีการจัดตั้งกองทุน ซึ่งจะสามารถนำเงินมาชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการดังกล่าว ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ ส่วนที่เพื่อนสมาชิกอภิปรายว่าไม่มีการตั้งงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบาย 20 บาทนั้นเป็นเรื่องจริง เนื่องจากแหล่งเงินที่รัฐบาลใช้ในการสนับสนุนค่าโดยสารให้ประชาชน ได้มาจากการใช้เงินรายได้ของ รฟม.และ รฟท.จึงไม่ปรากฏในเล่มงบประมาณ