เศรษฐา สั่ง สำนักงบฯ สนองนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ตั้งงบฯ เผื่อ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
”นายกฯ“ มอบนโยบายทำงบฯปี68 เป้าหมายต้องชัด เป็นรูปธรรม ชี้ นโยบายเรือธง ”ซอฟต์พาวเวอร์“ สั่ง สำนักงบฯ สนองงาน พร้อมเพิ่มสวัสดิการคนรายได้น้อย ลดงบฯ กองทัพ ประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่เป็นชนวนขัดแย้งในสังคม สั่ง ตั้งงบฯ เผื่อใช้พัฒนา นอกเหนือจาก “ดิจิทัลวอลเล็ต”
ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีคณะรัฐมนตรี และตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม
โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า จุดประสงค์ของการประชุมวันนี้ เพื่อมอบนโยบาย และแนวทางการจัดทำงบประมาณให้กับทุกหน่วยงานเพื่อดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ตามที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารในช่วงที่ประเทศประสบความท้าทาย ในเรื่องความสามารถในการผลิตและการแข่งขัน ปัญหาส่งออกชะลอตัว ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ภัยพิบัติและมลพิษที่รุนแรงขึ้น ปัญหาสวัสดิการภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้นจนเป็นภาระการเงินการคลังของประเทศ มีกลุ่มเปราะบางที่ตกหล่น ภาระหนี้ของรัฐและเอกชนพุ่งสูงขึ้น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงขึ้น การจัดเก็บรายได้ของรัฐ เมื่อเทียบต่อGDP ลดลงต่อเนื่อง อัตราภาษีที่ยังขาดความเป็นธรรม ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และยาเสพติดที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ ผ่านการดำเนินนโยบายต่างๆของรัฐ จึงขอให้ทุกหน่วยงานยึดตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา
“นโยบายที่ดำเนินการภายใต้รัฐบาลนี้ จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ภาษีของพวกเขาถูกใช้ในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของผมก็ยังชัดเจนเหมือนเดิม เศรษฐกิจประเทศไทยใน4ปี จะต้องโตเฉลี่ย 5% ให้ได้ เราจะทำให้รายได้เกษตรกรสุทธิเพิ่มขึ้น3เท่าภายใน4ปี การท่องเที่ยวเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญรัฐบาลมีเป้าหมาย รายได้จากการท่องเที่ยว 3ล้านล้านบาท มุ่งให้ไทยเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายกฯ กล่าวว่า อีกเรื่องที่กำลังทดสอบ คือการขยายเวลาปิดสถานบริการ ซึ่งนำร่องไปแล้ว5พื้นที่ ตรงนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นและอาจปรับเปลี่ยนกฎหมายเพื่อขยายผลต่อไปในอีกหลายๆ พื้นที่
ขณะที่โครงการแลนด์บริดส์ นายกฯ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญ การเชื่อมสองฝั่งมหาสมุทร จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า และการคมนาคมที่สำคัญ เสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพ เราจะเสริมความแข็งแกร่งของขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา คาดว่าจะสร้างงานได้2.8แสนตำแหน่ง คาดGDPโตขึ้น 5.5% โครงการนี้มีประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล และขอให้ทุกท่านช่วยกันสนับสนุนผลักดันไปด้วยกัน
“นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จะยังคงเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่ผลักดันต่อ เดินหน้านโยบาย1ครอบครัว1ซอฟพาวเวอร์ เริ่มต้นตั้งแต่ต้นน้ำในการคัดเลือกคนเข้ามาอัพสกิลและรีสกิล ฝึกทักษะที่เกี่ยวข้อง โดยทำงานบูรณาการกันหลายหน่วยงาน กลางน้ำจะใช้กลไกต่างๆ ให้คนที่มีทักษะในแต่ละครอบครัว สามารถประกอบอาชีพได้ พัฒนาฝีมือให้โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมถึงแก้ไขกฎหมายที่ส่งเสริมทั้ง11อุตสาหกรรมให้ดีมากยิ่งขึ้น“ นายกฯ กล่าว
ขณะที่ขั้นปลายน้ำของซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ ระบุว่า เราจะช่วยส่งเสริมการตลาดรองรับ การขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ ทั้งในและต่างประเทศ และรัฐบาลตั้งเป้าว่า ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำในด้านเฟสติวัลของภูมิภาค ต้องมีการจัดงานต่างๆที่คณะกรรมการซอฟพาวเวอร์ ผลักดันให้เกิดขึ้น และจะผลักดันมวยไทยไปทั่วโลก
“ผมขอให้ทางสำนักงบประมาณทำงานร่วมกับคณะกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในเรื่องความเสมอภาคและเท่าเทียม รัฐบาลมีเป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำในสังคมโดยการสร้างความเท่าเทียมทุกกลุ่ม เพิ่มสวัสดิการโดยรัฐ ปรับปรุงคุณภาพของนโยบายสวัสดิการ ที่กลุ่มคนรายได้น้อยได้รับ แต่ต้องบริหารจัดการไม่ให้เป็นภาระการเงินการคลังของประเทศมากเกินไป จนไม่มีงบประมาณไปพัฒนาในส่วนอื่น
“ด้านความมั่นคง กองทัพ รัฐบาล จะสนับสนุนการปรับโครงสร้างของหน่วยงานด้านความมั่นคง ให้มีความทันสมัย สามารถตอบสนองต่อการคุกคาม และภัยของความมั่นคงรูปแบบใหม่ๆ ได้ทุกมิติ พัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาศักยภาพของประเทศและประชาชน พัฒนากระบวนการทำงาน การลงทุนในอุปกรณ์ การฝึกอบรม ที่จะทำให้ทหารเป็นทหารอาชีพ ลดกำลังพลและงบประมาณลง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นแบบสมัครใจ“ นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการเมืองการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน มี3นโยบายสำคัญ 1. ปลดล็อคกฎระเบียบ เปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุน เรื่องกฎระเบียบสุราเสรี การปลดล็อคกฎระเบียบ รัฐบาลนี้จะต้องเดินหน้าแก้ไขกฎระเบียบ กฎหมาย ข้อจำกัดต่างๆที่เป็นอุปสรรค ต่อการสร้างเนื้อสร้างตัวของประชาชน
2.การทำ e-government ปรับปรุงกระบวนการบริการประชาชน และ3.การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐบาลจะทำประชามติ เพื่อจะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ โดยไม่จุดชนวนความขัดแย้งในสังคม มุ่งทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งในที่สุด
“อย่างที่ทราบ หนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาลนี้คือการทำดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จ แม้ว่าวันนี้เราจะเดินหน้าออกพ.ร.บ.กู้เงิน ก็ตาม แต่ก็ขอให้ไม่ลืมตั้งงบประมาณเผื่อไว้ในกรณีที่ต้องใช้พัฒนาและดำเนินโครงการด้วย แต่ขอให้ตั้งอย่างสมเหตุสมผล” นายกฯ กล่าว