อสส.สั่งสอบเพิ่ม อัยการนัด 28 ก.พ.ส่งฟ้อง 'สุนทร' คดีรุกป่าเขาใหญ่

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2567 นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีการดำเนินคดีกับนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรี และอดีต สส.ปราจีนบุรี หลายสมัย กับพวกรวม 11 คน กรณีกล่าวหาว่าร่วมกันบุกรุกเข้ายึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการร่วมกันบุกรุกป่าและเขตอุทยานและที่ดินของรัฐซึ่งมีผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน ในชั้นสุดท้ายที่อัยการสูงสุด (อสส.) ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหา 12 คน (ปัจจุบันมีผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต 1 คน เหลือ 11 คน) อาจจะแตกต่างกัน เรื่องการแยกคำนวณเรื่องการการดำเนินการในส่วนแพ่ง ตามข้อกล่าวหาความผิดฐานร่วมกันบุกรุกป่าร่วมกันบุกรุกเขตอุทยานฯ เป็นที่ดินของรัฐตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ และตามประมวลกฎหมายที่ดิน

นายวิรุฬห์ กล่าวว่า นอกจากมีการชี้ขาดให้ฟ้องหรือคำสั่งให้ฟ้อง อัยการสูงสุดให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมบางประเด็นด้วย ในขณะนี้อัยการ ได้มีการแจ้งพนักงานสอบสวนให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ จนกระทั่งถึงวันนัดที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการสอบสวนเพิ่มเติมยังสอบมาไม่ครบถ้วนจึงจำเป็นต้องเลื่อนนัดสั่งคดีออกไป นัดครั้งต่อไปจะเป็นวันที่ 28 ก.พ. ตรงนี้ต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติมถ้าหากส่งมาครบถ้วนแล้ว ในช่วงวันนัดถัดไปก็จะดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คนไปยื่นฟ้องต่อตามข้อกล่าวหาต่อไป

เมื่อถามว่า ในวันที่ 28 ก.พ. ถ้าหากว่าผลสอบยังไม่มา อาจจะต้องเลื่อนฟังคำสั่งต่อไปหรือไม่ นายวิรุฬห์ กล่าวว่า หากผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาส่งมาไม่ครบถ้วน อัยการเราจำเป็นที่จะเลื่อนคดีไปก่อนตามกฎระเบียบ เเต่เมื่อถ้าส่งมาครบถ้วนแล้วเราก็จะได้ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกเอกสารข่าวเเจ้งว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2555 ให้รับกรณีบุคคล/กลุ่มบุคคลกระทำการบุกรุกและออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ประมาณ 251–3–52 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 21,134,075.50 บาท ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555

ทางการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง ในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 149/2555 ไปดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนของการกระทำความผิดฐานบุกรุกของราษฎร กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนขยายผลและแยกสำนวนการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 มีการดำเนินคดีกับ นายสุนทร อดีต สส.และอดีต รมช.สาธารณสุข กับพวก รวม 13 คน ในความผิดฐาน “ยึดถือครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อันเป็นการสมคบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายและนำเอาโฉนดที่ดินไปใช้เพื่อยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ” ภายหลังมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้ กำหนดให้คดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันกับคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2558 ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อรวมดำเนินการกับคดีพิเศษที่ 149/2555 ที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคืนมาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้น เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 คน และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง 1 คน เนื่องจากถึงแก่ความตาย ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด

อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายและได้รับผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว และให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายสุนทร กับพวก ตามบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามกฎหมาย จึงมีหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา