'ครูหยุย' เสนอตั้ง องค์กรสหวิชาชีพ ก่อนเพิ่มโทษเด็กคดีร้ายแรง เท่าผู้ใหญ่
"ครูหยุย" เสนอ ตั้งองค์คณะพิจารณาโทษเด็ก ประเมินความรุนแรงก่อนลงโทษ พร้อมหาแนวทางคู่ขนาน ลดการเสพสื่อรุนแรง - ลดภาวะความเลวร้ายรอบตัวเด็ก หลังเคส ป้าบัวผัน - พารากอน
นายวัลลภ ตังค์คณานุรักษ์ สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณี การลงโทษเด็ก และเยาวชนที่ก่อเหตุอาชญากรรม ว่า กรณีที่เยาวชนอายุน้อยก่อเหตุอาชญากรรมตั้งแต่เหตุการณ์ที่สยามพารากอน และกรณี เยาวชนรุมทำร้าย ป้าบัวผัน จนเสียชีวิตล่าสุด เป็นเรื่องสะเทือนขวัญที่มีข้อเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายอาญาที่มองว่าโทษน้อยเกินไป ทั้งนี้ตามหลักกฎหมายแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มต่ำกว่า 12 ปี ถ้าทำผิดศาลไม่เอาโทษ กลุ่มอายุ 12-15 ปีศาลยังคงยกเว้นโทษ เรียกผู้ปกครองมาคาดโทษและภาคทัณฑ์ไว้ หรือใช้วิธีกักตัว ในสถานพินิจหรือเรียกกันว่าคุกของเด็ก กลุ่มเด็กอายุ 15-18 ปี ถ้าจะลงโทษ โทษก็จะลดลงตามอายุ กลุ่มช่วงอายุ 18 ถึง 20 ปีก็ต้องรับโทษ
นายวัลลภ กล่าวว่า ส่วนตัวทำงานด้านเด็กมาตั้งนาน เข้าใจความรู้สึกของประชาชน และรู้สึกปวดร้าว นอกจากเรื่องโทษที่กำหนดตามอายุแล้วต้องมองพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
"หากจะแก้ไขกฎหมาย ถ้าเป็นพฤติกรรมโหดร้ายรุนแรงเทียบเท่ากับที่ผู้ใหญ่กระทำ ต่อผู้อื่น ก่อนที่ศาลจะพิจารณาโทษอาจมีองค์คณะที่มีตัวแทนจากสหวิชาชีพ เข้ามาดูพฤติกรรม เพื่อประเมินว่าเป็นพฤติกรรมที่รุนแรงเกินไป จะใช้โทษแบบเดิมไม่ได้ ต้องใช้โทษที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางออก พร้อมกับให้ผู้ปกครองต้องดูแลให้ดีว่าจะทำอย่างไร ให้เด็กลดการเสพสื่อที่รุนแรง ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป" นายวัลลภ กล่าว
นายวัลลภ ยังเปิดเผยถึง สถิติ ปี 2565 ที่พบว่าคดี ที่เด็ก และเยาวชนก่อขึ้นมา มีกว่า 12,000 คดี และในจำนวนนี้ เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดกว่า 4,000 คดี อาจสืบเนื่องมาจากปล่อยให้มีการดื่มน้ำกระท่อมหรือกัญชาเสรี และยังมีแนวคิดเปิดสถานบริการถึงตี 4 ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยแวดล้อม ที่ต้องระมัดระวัง ในขณะที่เราไปมุ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เด็กทำ แต่ไม่ได้มองมิติสังคมที่สร้างความรุนแรงให้แก่เด็ก ดังนั้นต้องดูว่าจะลดภาวะความเลวร้ายรอบตัวเด็ก และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับเด็กได้เสพอย่างไร.
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์