‘พิธา’ ถึงศาล รธน.รอฟังคำตัดสินคดีหุ้นไอทีวี มั่นใจพ้นบ่วง ลุยการเมืองต่อ

‘พิธา’ ถึงศาล รธน.รอฟังคำตัดสินคดีหุ้นไอทีวี มั่นใจพ้นบ่วง ลุยการเมืองต่อ

‘พิธา’ ถึงศาล รธน.รอฟังคำวินิจฉัยคดีหุ้นไอทีวี เข้าข่ายทำกิจการสื่อต้องพ้น สส.หรือไม่ มั่นใจในข้อเท็จจริง-ความบริสุทธิ์ ลั่นไม่ว่าผลลัพธ์แบบไหน เตรียมพร้อมรับไว้หมดแล้ว ยันทำงานการเมืองต่อแน่นอน มั่นใจในคำตัดสินเรื่องของนิยามสื่อ

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 เวลา 12.45 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังคำวินิจฉัยคดีถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข้ายถือครองหุ้นไอทีวีหรือไม่ ว่า มั่นใจในข้อเท็จจริง และความบริสุทธิ์ และมีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร มีเตรียมตาราง แผนดำเนินงานของพรรคก้าวไกล และตนตลอดทั้งปีแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เสาร์อาทิตย์นี้ลงพื้นที่เหมือนเดิม
    
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ดำรงตำแหน่งต่อ จะเข้าสภาฯเลยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตามแผนดำเนินการของพรรค กรณีเข้าสภา โดยจะเข้าได้เมื่อไหร่ อย่างไร ต้องหารือกับทางสภาฯอีกทีหนึ่งว่า เอกสารของศาลรัฐธรรมนูญ และรัฐสภานั้น ต้องใช้เวลาอย่างไร ให้ฝ่ายกฎหมายช่วยดู แต่วันนี้ขอฟังคำวินิจฉัย

เมื่อถามว่า นิยามคำว่าสื่อมั่นใจมากน้อยแค่ไหน ในความหมายศาลจะให้ในวันนี้ นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจในมาตรฐานของคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ถ้าใครได้ดูรายละเอียดคงเห็นว่า การที่จะเป็นสื่อมวลชน ต้องมีใบประกอบกิจการ มีข้อแม้อย่างไรบ้าง และได้นำข้อเท็จจริงนี้ไปสู้ในศาล 

“ไม่ว่าจะข้อเท็จจริงในอดีต หรือปัจจุบัน เรื่องในอนาคตก็อย่างที่บอกว่า ยังไงก็ทำงานรับใช้ประชาชน นักการเมือง มีแผนตลอดทั้งปี คงมีการที่ได้รับมอบหมายจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคว่า โร้ดแมปของพรรคก้าวไกลในการทำงานที่จะถึงนี้มีแผนรองรับเรียบร้อย ประชาชนไม่ต้องกังวล” นายพิธา กล่าว

ส่วนหากผลลัพธ์เป็นบวกนั้น นายพิธา กล่าวว่า คงเตรียมการแถลงโรดแมปของพรรคก้าวไกล โดยมีแขกจากต่างประเทศมาวันพรุ่งนี้ และเสาร์อาทิตย์ลงพื้นที่ต่างจังหวัดต่อ แต่ยืนยันว่าจะทำงานต่อไปไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร 
    
“กราบขอบพระคุณที่สนับสนุนพวกเราพรรคก้าวไกลตลอด ยังไงไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังแน่นอน” นายพิธา กล่าว