ลั่น! ก้าวไกล พร้อมรับทุกซิเนริโอ 'ชัยธวัช' จ่อถกทีมกม.สู้ปม'ยุบพรรค'
ก้าวไกล รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนถกทีมกฎหมายสู้ปม "ยุบพรรค" ยืนยันพร้อมรับทุกซิเนริโอ ส่วนปม "ประหารชีวิต การเมือง" 44สส.เป็นเรื่องไม่ควรเกิด
ที่รัฐสภา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกล กรณีเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ..เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
ในเวลา16.00 น.นายพิธา ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค รวมถึงสส.พรรคร่วมกันแถลงข่าวหลังศาลมีคำวินิจฉัย
จากนั้นในช่วงเปิดให้สื่อมวลชนได้ซักถาม กรณีนี้อาจมีการนำไปสู่การยื่นยุบพรรคก้าวไกลในลำดับถัดไป นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคคงต้องรอคำวินิจฉัยอีกครั้งแต่เราไม่สามารถประมาทได้ ทั้งนี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุดไม่สามารถโต้แย้งได้แต่เราก็เตรียมตัวไว้ในทุกซิเนริโอ ไม่ได้กังวลอะไร แต่ไม่ประมาท
ถามย้ำว่า กังวลว่าจะซ้ำรอยไปถึงพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น คงต้องรอคำวินิจฉัยตัวเต็มเพื่อพิจารณาแนวทางทางกฎหมายต่อไป
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึง คำวินิจฉัยศาลที่ระบุถึงสส.ที่ไปเป็นนายประกันให้ผู้ต้องหาคดี112 ว่ามีเจตนาในการล้มล้าง ตรงนี้คิดว่ามีปัญหา เท่ากับว่าหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่ระบุในรัฐธรรรมนูญ ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ก็ถือว่าขัดกัน
ทั้งนี้ยืนยันว่าการประกันตัวผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นคดีใดๆเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายของบุคคลทุกคน กระบวนการยุติธรรมไม่ได้ยกเว้น การตีตวามเช่นนี้อาจเป็นปัญหาในอนาคตได้
เมื่อถามว่าหลังจากนี้การเสนอแก้ไขมาตรา112ก็ไม่สามารถทำได้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า คำวินิจฉัยที่เกิดขึ้นหมายความว่าหลังจากนี้พรรคก้าวไกลต้องห้ามพูดถึงการแก้ม.112อย่างสิ้นเชิงใช่หรือไม่ หรือจะพูดได้อย่างเดียวคือการเพิ่มโทษในคดี112ใช่หรือไม่
คำวิจฉัยที่ออกมาจะกลายเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ว่าต่อไปไม่ว่าจะเสนอกฎหมายวาระใดศาลรัฐธรรมนูญก็จะเข้ามาพิจารณาได้โดยไม่ต้องรอกฎหมายผ่านวาระ3ก่อน
เมื่อถามถึงกรณีมีการพูดถึง44สส.ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาจมีโทษร้ายแรงถึงขั้นตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นการดำเนินการใดๆหลังจากนี้ที่เกินสมควรจะยิ่งทำให้ประเด็นเรื่องสถาบันกลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น
ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลมีเจตนาลดการนำประเด็นดังกล่าวเข้ามาเป็นประเด็นความขัดแย้ง การเสนอกฎหมายของพรรคก้าวไกลเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำมาตรา112มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ตนมีความกังวลว่าประเด็นนี้อาจมีการตีความไปถึงการนิรโทษกรรมผู้ต้องหาในคดี112 ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายด้วยหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นปัญหาในการตีความในภายหลัง