ทสท. แนะรัฐบาล อย่าทุ่มงบอีเวนต์ซอฟต์พาวเวอร์ด้อยคุณภาพ ต้องให้บทบาทเอกชน
“ปริเยศ” แนะรัฐบาล ดันซอฟต์พาวเวอร์อย่าเร่งใช้งบฯ จัดแต่อีเวนต์ด้อยคุณภาพ ควรให้บทบาทเอกชนมากขึ้น มีส่วนร่วมตัดสินใจ หวั่น ล้มเหลว กระท่อนกระแท่น ปชช. เสียโอกาส
นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของภาครัฐ ว่า ไม่ควรเน้นแต่การจัดอีเวนต์ด้วยงบประมาณปี 2567 และคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ชุดใหญ่ ควรให้บทบาทกับเอกชนที่เข้ามาร่วมงานมากขึ้นกว่าเดิม เพราะการผลักดันเรื่องนี้ เอกชนต้องการมากกว่าการเป็นเพียงที่ปรึกษาให้รัฐเอาไปทำต่อ เอกชนจึงควรมีกำลังมากขึ้น ในการร่วมตัดสินใจการวางรากฐานทางกฏหมาย และแนวทางการพัฒนา อาจเป็นในรูปแบบเหมือนกรรมาธิการวิสามัญของสภาก็ได้ ที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่ใช่เพียงแนะนำเท่านั้น
นายปริเยศ กล่าวว่า ปัญหาที่อนุกรรมการชุดต่างๆ ที่ผลักดัน ซอฟต์พาวเวอร์อาจเจอในวันข้างหน้าคือ เสนอแนวคิดไปแต่ถึงเวลา กรรมการชุดใหญ่ที่เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาโครงการแบบใด เสนอรัฐบาลไปดำเนินการ ก็ไปทำตามใจตนเอง เพราะขาดความเข้าใจ เช่น การออกแบบงานอีเวนต์ต่างๆ แบบไร้คุณภาพ หรือการผลักดันการอบรมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่มี พ.ร.บ.มาสนับสนุนการตั้งหน่วยงานที่ทำงานด้านซอฟต์พาวเวอร์แบบเป็นรูปธรรม หากแต่ปีงบประมาณเริ่มต้นไปแล้ว ดังนั้น ปัญหานี้ย่อมทำให้เอกชนที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการ เขาย่อมไม่สบายใจ เพราะหากมีกิจกรรมใดๆ หรือโครงการใดๆ ที่ออกไปแล้วประชาชนตั้งคำถาม ย่อมส่งผลถึงเครดิตที่มีต่อพวกเขาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องพึงระวัง เพราะผลสุดท้าย นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นเรือธงอีกอันของรัฐบาลจะล้มเหลว และไปแบบกระท่อนกระแท่น เหมือนกับนโยบายก่อนๆ ซึ่งเป็นการเสียโอกาสสำหรับประชาชนมาก
"รัฐต้องเริ่มให้อำนาจกับเอกชนที่เขามาช่วยวางโครงสร้าง ในการปฏิรูปด้านกฏระเบียบต่างๆ รวมถึงตระเตรียมการใช้เงินเพื่อบุคลากรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ ไม่ใช่เร่งใช้งบฯไปกับอีเวนต์ด้อยคุณภาพ หรือการจัดอบรมแบบหว่านไปทั่ว ซึ่งคณะทำงานที่เขามีคุณภาพเขาอาจจะเลือกเดินออกไป แล้วทำให้รัฐบาลใช้งบประมาณไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ เพียงเพราะมีคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ห้อยท้าย"นายปริเยศ กล่าว