‘เสธหิ’ ลั่น ’รทสช.‘ ไร้ประโยชน์ทับซ้อน อดต้องทำใจ โยน ‘เจ๋ง ดอกจิก’ สู้คดีเอง

‘เสธหิ’ ลั่น ’รทสช.‘ ไร้ประโยชน์ทับซ้อน อดต้องทำใจ โยน ‘เจ๋ง ดอกจิก’ สู้คดีเอง

“หิมาลัย” ลั่น “รทสช.” ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาล ทำเพื่อชาติ อดมื้อ กินมื้อ ต้องพร้อมทำใจ ชี้ “เจ๋ง ดอกจิก“ โดนกล่าวหาตบทรัพย์ ต้องแจงสังคม สู้คดีเอง แจง มาร่วมงานพรรค ผ่านโครงการสมานฉันท์ สลายสีเสื้อ ก้าวข้ามขัดแย้ง ยัน พรรคไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน ทำงานตรงไปตรงมา

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความส่วนตัวระบุว่า พรรคนี้ไม่มีเรื่องส่วนตัว!! ชี้ชัด พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นพรรคการเมือง ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาล ยืนยัน อุดมการณ์ทำเพื่อชาติ อดมื้อ กินมื้อ ก็ต้องพร้อมทำใจ

กรณีของคุณเจ๋ง ดอกจิก โดนกล่าวหาว่าไปพัวพันกับขบวนการตบทรัพย์ท่านอธิบดีกรมข้าวที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ ต้องเรียนพี่น้องประชาชนทุกท่านเลยนะครับ ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเจ๋งล้วนๆ เป็นเรื่องที่คุณเจ๋งจะต้องไปตอบสังคมและต่อสู้คดีเอาเอง    

คุณเจ๋ง ดอกจิกเข้าร่วมงานกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตามโครงการสมานฉันท์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ภายใต้แนวความคิดของการอยู่ร่วมกันบนความเห็นต่าง ที่ไม่ต้องการให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนในชาติแบ่งแยกกันเป็นก๊ก เป็นเหล่า เป็นสีอีกต่อไป เรียกว่าเป็นการสลายสีเสื้อ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งพรรคร่วมไทยสร้างชาตินั้นเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองในการที่จะสร้างสรรค์พัฒนาประเทศชาติ บำรุงรักษาศาสนา ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 

การร่วมงานตามอุดมการณ์พรรค ทุกคนจึงมีอิสระในการทำงานตามแนวทางของตัวเอง แต่ที่นี่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ให้แสวงหา การบริหารพรรคโดยหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และเลขาธิการพรรค นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ที่มีโอกาสได้บริหารงานราชการการเมืองในตำแหน่งต่างๆ จึงต้องเร่งขยันสร้างผลงานให้ปรากฏต่อสายตาของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผู้เป็นผู้หยิบยื่นโอกาสให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้ทำงานรับใช้พวกท่านทั้งหลาย

จุดแข็งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของพรรค ในบางครั้งอาจกลายเป็นจุดอ่อน หากผู้เข้ามาร่วมงานการเมืองของพรรค ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือลาภอันมิควรได้ บุคคลเหล่านี้จึงอาจจะต้องไปหาหนทางจากที่อื่น ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของพรรค

พรรคการเมืองจึงเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน มาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติตามนโยบายและแนวทางของพรรคนั้นๆ ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาลที่จะมานั่งคอยอบรมสั่งสอนควบคุมความประพฤติของสมาชิกและผู้ร่วมงาน แต่ละท่านที่มาร่วมอุดมการณ์ย่อมต้องระวังตัว ควบคุมจิตใจตัวเองให้ยึดมั่นและมั่นคงในอุดมการณ์แม้จะต้องอยู่อย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ แต่นั้นคือเกียรติยศทางการเมืองของแต่ละท่าน 

เรื่องที่เกิดขึ้น จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่จะเข้าสู่ถนนการเมืองได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ ส่วนคุณเจ๋ง ดอกจิกนั้น คงต้องเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ที่จะต้องไปพิสูจน์ตัวเองตามวิถีทางของขบวนการยุติธรรมและบริบทของสังคมต่อไป