‘รทสช.’ จี้ ‘พิธา-ชัยธวัช’ เตือนกลุ่มทะลุวัง หยุดก้าวล่วงสถาบัน
“ธนกร” เผย ไม่เห็นด้วย กลุ่มทะลุวัง ป่วนขบวนเสด็จ ชี้ ศปปส. ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย ผิดกฎหมาย ขอให้หยุดสร้างความขัดแย้ง จี้ “พิธา-ชัยธวัช” ตักเตือน หยุดก้าวล่วงสถาบัน ไล่ก้าวไกลกลับไปทบทวนนิรโทษกรรมเหมาเข่ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มทะลุวัง กับกลุ่มศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสยาม ว่า ตนเข้าใจถึงความไม่พอใจของกลุ่มศปปส.ที่ไม่เห็นด้วยกับการขับรถ บีบแตร รบกวน ขบวนเสด็จฯ และประเทศกิจกรรมทำโพลในเรื่องดังกล่าว โดยเชื่อว่าคนไทยทั้ง รวมถึงตนเองนั้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่การใช้ความรุนแรไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี จึงขอให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างความขัดง ทำร้ายร่างกายถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และแย้ง และไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คนไทยด้วยกันต้องรักกันสามัคคีกัน ส่วนกลุ่มทะลุวังออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าว ทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำ ตามกระบวนการกฎหมายซึ่งคดีความอยู่ในชั้นศาลหลายคดีอยู่แล้ว
นายธนกร กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลและนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูเหมือนไม่ได้ออกมาตักเตือนกลุ่มทะลุวัง แต่ยังมองว่าควรเปิดพื้นที่ให้เยาวชนแสดงความเห็นและโยงไปถึงการเสนอนิรโทษกรรมคดีด้วยนั้น แม้ว่านายพิธาจะเคยเป็นนายประกันให้น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ในคดีทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และปัจจุบันจะถอนจากการเป็นนายประกันก็ตาม ทั้งนายพิธาและนายชัยธวัช ควรตักเตือนกลุ่มดังกล่าวให้หยุดก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจใหม่ ให้มีการแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์และถูกต้องตามกฎหมายจะดีกว่า หากจะดีกว่านั้น ควรพูดคุยกับเครือข่ายเยาวชน ให้หันมาช่วยกันพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมจะดีกว่า พื้นที่พูดคุยสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศมีอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่เรื่องที่กลุ่มทะลุวังเคลื่อนไหวอยู่
“การที่นายชัยธวัชและนายพิธา ไม่ได้ตักเตือนกลุ่มเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในทางที่ผิดและยังมองว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างควรเปิดพื้นที่ให้แสดงออกนั้น น่าจะมาจากความเข้าใจที่ผิดตั้งแต่ต้น เพราะสถาบันฯไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ที่สำคัญเป็นการทำผิดคดีอาญาที่ร้ายแรง ไม่ควรเหมารวม ว่าเป็นคดีทางการเมืองที่จะเสนอสภาให้มีการนิรโทษกรรมได้ ขอให้พรรคก้าวไกล ทบทวนเรื่องนี้โดยด่วน ควรกลับไปพูดคุยกับเครือข่ายให้หยุดก้าวล่วงสถาบัน และหันมาช่วยกันพัฒนาประเทศในด้านที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า เพราะผมเชื่อว่าองค์ความรู้ที่ทันโลกของคนรุ่นใหม่จะช่วยพัฒนาประเทศได้ จะมายุ่งกับสถาบันฯอันเป็นที่รักและศรัทธาของคนไทยทำไม“ นายธนกร กล่าว