‘พิชิต’ สยบดราม่า ยาบ้า5เม็ด ไม่ใช่ผู้เสพทุกราย หากพิสูจน์ได้ว่าค้า โทษหนัก
“พิชิต” แจง ดราม่า กฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ เป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด ปม ครอบครอง “ยาบ้า” ชี้ อย่าเข้าใจผิด พก5เม็ด เป็นผู้เสพทุกรายไม่ถูกต้อง กฎหมายให้จนท.พิสูจน์พยานหลักฐานหักล้าง หากครอบครองเพื่อการค้า ต้องรับโทษหนัก
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊คระบุชี้แจงข้อกฎหมาย มียาบ้า5เม็ด เป็นผู้เสพหรือผู้ค้า ว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 เป็นกฎหมายให้สิทธิและคุ้มครองสิทธิผู้กระทำความผิดโดยคัดกรองผู้กระทำผิดว่าเป็น ผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้ารายย่อย หรือผู้ติดยาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องพิสูจน์การกระทำผิดต่างๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อัยการก็ต้องใช้ดุลพินิจในการเลือกฟ้องคดีให้ถูกต้องสมเหตุสมผลกับพฤติการณ์ และศาลก็สามารถใช้ดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาคดีตามพยานและหลักฐาน ในภาพรวมคือทำให้ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาการกระทำความผิดของผู้ต้องหา
ประเด็นมียาบ้าไว้ในครอบครองจำนวนไม่เกิน 5 เม็ด เพื่อเสพ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 และประมวลกฎหมายยาเสพติด
มาตรา 107 ห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อเสพ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ในปริมาณเล็กน้อยซึ่งไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดในกฎกระทรวง (ไม่เกิน 5 เม็ด) ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
มาตรา 164 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อเสพ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 107 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตามมาตรา 107 วรรคสอง เป็นการครอบครองเพื่อเสพโดยบทสันนิษฐานของกฎหมาย (การครอบครองยาเสพติดไม่เกินจำนวน 5 เม็ด ที่กำหนดในกฎกระทรวงสาธารณสุข) เป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด อย่าเข้าใจว่ามียาบ้า 5 เม็ดแล้วจะถือว่าเป็นผู้เสพเสียทุกรายนั้นไม่ถูกต้อง กฎหมายมีผลเพียงเป็นการผลักภาระการพิสูจน์ไปให้เจ้าหน้าที่ที่จะต้องนำพยานหลักฐานสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมผู้ต้องหาที่มียาบ้าไว้ในครอบครอง ไม่เกิน 5 เม็ด ผู้ต้องหาได้ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยบทสันนิษฐานของกฎหมาย แต่เมื่อข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด หากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหักล้างได้ว่า ผู้ต้องหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อการค้า ผู้ต้องหาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐาน แต่ต้องรับผิดฐานเป็นผู้ค้าซึ่งต้องรับโทษหนักขึ้น ไม่ใช่ผู้เสพ