ถอดรหัสมาตรการสหรัฐ บทเรียนสู่ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
คนที่เลือกพรรคส่วนใหญ่ก็เลือกเพราะอยากได้เงินดิจิทัล ถ้ารัฐบาลทำนโยบายนี้ได้สำเร็จ ย่อมกลายเป็นซิกเนเจอร์ของพรรค เหมือนกับหลายๆ นโยบายของพรรคไทยรักไทย
ประชาชนลุ้นกันมากกับดิจิทัลวอลเล็ต จะได้ใช้เมื่อไหร่ไม่สำคัญเท่าจะได้ใช้หรือไม่ วานนี้ (15 ก.พ.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั่งหัวโต๊ะ ประชุมคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่า รัฐบาลทำแน่ ซึ่งหลายคนก็เชื่อเช่นนั้น เพราะนี่คือนโยบายสำคัญที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ คนที่เลือกพรรคส่วนใหญ่ก็เลือกเพราะอยากได้เงินดิจิทัล ถ้ารัฐบาลทำนโยบายนี้ได้สำเร็จ ย่อมกลายเป็นซิกเนเจอร์ของพรรค เหมือนกับหลายๆ นโยบายของพรรคไทยรักไทย
การประชุมนอกจากนายกฯ ที่ควบตำแหน่งขุนคลังและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจะร่วมประชุมแล้ว นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าประชุมด้วย เรียกได้ว่าต้องผนึกกำลังกันหลายฝ่าย และต้องพิจารณาให้ละเอียด ฝ่ายประชาชนอยากได้ ฝ่ายรัฐบาลอยากทำเพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ ข้อคำถามคือจะหาเงินจำนวนมากนี้มาจากไหน หากต้องกู้จำเป็นหรือไม่ เศรษฐกิจไทยวิกฤติถึงขั้นต้องกู้หรือยัง ต่างฝ่ายต่างออกความเห็นวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ถามประชาชนวิกฤติหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ถ้ามีมาตรการจากภาครัฐ มาช่วยเหลือการจับจ่ายใช้สอยย่อมดีแน่นอน แว่วๆ มาว่าไม่ได้มีแค่ประชาชน เหล่านักธุรกิจใหญ่น้อยก็นั่งลุ้นอยู่ทุกวันว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะรุ่งหรือร่วง
พูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอยากยกกรณีศึกษาสหรัฐ จีดีพีสหรัฐโตเกินคาด การจ้างงานพุ่งเกินความคาดหมาย ผู้บริโภคยังคงจับจ่ายใช้สอยแม้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นทั้งหมดนี้ช่วยพลิกผันภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่เป็นเช่นนี้ได้มาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการใช้จ่ายของภาครัฐ คงจำกันได้ว่า รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายชุดทั้งกฎหมาย CARES วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2563 และแผนช่วยเหลือชาวอเมริกัน วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลตั้งใจใช้ฟื้นเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 หลังจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานในปี 2564 งบประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังออกกฎหมายลดเงินเฟ้อในปี 2565
การเมืองสหรัฐนั้นแบ่งพรรคชัดเจนแต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางตัวที่ต้องออกมาเป็นกฎหมาย ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองพรรคสะท้อนว่า การนำพาเศรษฐกิจประเทศให้รอดพ้นอุปสรรคเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเศรษฐกิจไทยก็อย่างที่กล่าวไว้หลายครั้ง งบประมาณก้อนใหญ่ต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ เสียงท้วงติงต้องรับฟังแล้วนำไปพิจารณา ส่วนคนที่ทักท้วงขอให้ทำไปด้วยใจบริสุทธิ์ อย่าให้ความแตกแยกทางการเมืองในอดีตคอยหลอกหลอนจนกลายเป็นจระเข้ขวางคลอง อย่าลืมว่า ประชาชนอีกมากมายมหาศาลตั้งความหวังไว้กับดิจิทัลวอลเล็ต อย่าให้ประชาชนผิดหวัง