‘นายกฯ’ คิกออฟมอบสัญญาเช่าหนองวัวซอโมเดลให้ชาวอุดรฯ ใช้ที่ดินกองทัพ

‘นายกฯ’ คิกออฟมอบสัญญาเช่าหนองวัวซอโมเดลให้ชาวอุดรฯ ใช้ที่ดินกองทัพ

‘นายกฯ’ คิกออฟมอบสัญญาเช่าหนองวัวซอโมเดลให้ประชาชน จ.อุดรธานี ใช้ประโยชน์ที่ดินกองทัพ ยันสิทธิทำกินเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลจะขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาต่อ

ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์“ ประจำปีงบประมาณ 2567 

ภายใต้โครงการนำร่อง “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ดินของกองทัพที่จะนำไปให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ โดยรัฐบาลใช้เวลาเพียง 3 เดือนเศษ หลังนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไปเมื่อครั้งไปเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เมื่อ 31 ตุลาคม 2566 
 

นายกฯ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาแจกที่ดินทำกินให้กับประชาชนในวันนี้  จึงอยากจะขอเล่าเรื่องพื้นฐานก่อนว่า ที่อยากจะทำเรื่องนี้เพราะเรื่องสิทธิทำกินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหม และกองทัพทุกเหล่าทัพต่างร่วมมือกัน เนื่องจากมีพื้นที่อยู่เยอะ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีได้พูดคุย และศึกษาข้อมูลในเชิงลึกกับทุกคนแล้ว

อีกทั้งตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับแม่ทัพทุกเหล่าทัพ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ที่อยากจะให้ที่ดินทำกินกับประชาชน และภายในเวลาแค่ 4-5 เดือน กองทัพได้ทำงานอย่างรวดเร็ว มีคนได้รับประโยชน์กว่า 500 ครอบครัว และจะไม่หยุดยั้งที่จะทำงานต่อไป ซึ่งที่ต่อไปก็จะเป็น จ.นครพนม จ.สมุทรปราการ และจ.กาญจนบุรี รวมไปถึงกองทัพเรือ กองทัพอากาศก็จะมีส่วนร่วมด้วย
 

นอกจากนี้เรื่องระบบชลประทานกับเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการ  ซึ่งจะต้องให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่แจก จะมีน้ำใช้ ซึ่งไม่ใช่ให้แค่พื้นที่อย่างเดียว ต้องให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และใช้ประโยชน์ได้ รัฐบาลเข้าใจปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี และจะขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้กับประชาชนต่อไป 

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 24 ปกครองดูแลที่ดิน และมีกรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 เป็นหน่วยที่ใช้ประโยชน์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 40,000 ไร่ โดยเดิมทีเป็นพื้นที่ ที่ทหารใช้ในการซ้อมรบ และยิงปืนใหญ่ ซึ่งขณะนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ตรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้วไม่อยู่ในเขตอันตรายสามารถนำไปให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้กว่า 10,000 ไร่ โดยล่าสุดได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาจัดให้เช่าตามหลักเกณฑ์ ระเบียบและกฎหมายราชพัสดุเรียบร้อยแล้ว และมีประชาชนยื่นเอกสารแล้วกว่า 434 ราย  584 แปลง

นอกจากนี้ภายหลังความสำเร็จของ “หนองวัวซอโมเดล” กองทัพก็จะมีการขยายการใช้พื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มเติม เช่น บ้านแก่งประลอม และ บ้านพุราด อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ของกองทัพไทย, อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ของกองทัพเรือ และพื้นที่สนามบินนครพนม ของกองทัพอากาศ เป็นต้น
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์