สว.สมชาย ขู่ 'เศรษฐา-ทวี-ข้าราชการ' ชี้ปม 'ทักษิณ' จ่อคิวตามรอยจำนำข้าว
สว.สมชาย” ขู่ “เศรษฐา-ทวี-ข้าราชการ” ชี้ปมพักโทษ “ทักษิณ” จ่อคิวตามรอยจำนำข้าว .ป.ช.สอบให้ชัด ขณะที่2กมธ.วุฒิสภา ไล่บี้ต่อ โรงพยาบาลตำตรวจ-กรมราชทัณฑ์
ที่รัฐสภา สว.สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาพักโทษ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักโทษตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์มาตรา 52 (7) ไม่ใช่พ้นโทษ ยังเหลืออีก 6 เดือน ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือยังเป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องปฏิบัติย่างเคร่งครัดตามระเบียบ
สิ่งที่หลายฝ่ายพยายามพูดหรือบอกสังคม ในการเคลื่อนไหวต่างๆขอให้พิจารณาให้รอบคอบว่าดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ สังคมก็ตั้งคำถามอยู่แล้วถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรมก็จะติดตามต่อไปว่าการพักโทษ มีกติกาเคร่งครัดอย่างไร
นายสมชาย กล่าวว่า ประการถัดมาเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าตรวจสอบและตั้งสติให้ดี ให้ใช้กระบวนการทางกฎหมาย เช่น คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของนายทักษิณคงไม่มีปัญหาเพราะใช้ช่องทางทางกฎหมาย แต่ส่วนที่ต้องถูกตรวจสอบ คือฝ่ายปฏิบัติซึ่งมีองค์ประกอบคือฝ่ายบริหาร คนที่เกี่ยวข้องคือนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกรทะทรวงยุติธรรม ในฐานผู้กำกับดูแลหน่วยราชการทั้งหมดจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
“การปฏิเสธไม่รับทราบ ไม่อยู่ในส่วนที่ไม่รับผิดทางกฎหมาย เป็นเรื่องที่ป.ป.ช. ต้องสอบ ก็มีคดีที่เคยเกิดขึ้นแล้ว กรณีจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่วนที่ 2 คือกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไล่ไปตั้งแต่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถ้าเรื่องนี้ใช้คณะกรรมการพักโทษ ก็ต้องไปดูว่าคณะกรรมการพิจารณาถูกต้องหรือไม่ ถ้าทำแล้วผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี แบบจำนำข้าว ที่ข้าราชการทระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่อธิบดีจนถึงผู้อำนวยการต้องติดคุก” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวอีกว่า อีกส่วนที่ต้องรับผิดชอบคือโรงพยาบาลตำรวจ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ปฏิเสธไม่ได้และใครจะปรับปรุง ปรุงแต่ง แก้ไข บิดเบือน ถือว่ามีความผิด หลักฐานสำคัญคือเวชทะเบียน การแถลงของแพทย์ใหญ่ที่ทำมาโดยตลอด แถลงว่าเจ็บป่วยต่อเนื่องร้ายแรง
“วิกฤตร้ายแรงสำหรับผู้ป่วยผมคิดว่าทุกคนทราบดีต้องเป็นโรคเอดส์ขั้นสุดท้าย มะเร็งขั้นที่ 4 ไตวายเรื้อรัง อันนั้นเรียกว่าร้ายแรง แต่เท่าที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาตรวจสอบมา ตามที่นายทักษิณได้ยื่นตั้งแต่เข้าประเทศไทย เป็นใบรับรองแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ความดันโลหิตสูง กระดูกเสื่อม เส้นเลือดหัวใจตีบ และโรคปอด”นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนโรงพยาบาลตำตรวจและกรมราชทัณฑ์มา ก็ไม่ได้รับคำตอบ ยืนยันว่าไม่ต้องการแทรกแซงสิทธิผู้ป่วย แต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าที่ผ่านมามีการอ้างสิทธิ์มาโดยตลอด ทำให้กมธ.ทั้ง 2 คณะ สรุปว่า ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร
นายสมชาย ยังเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ทำหน้าที่ตรวจสอบเหมือนหลายคดีที่ผ่านมา โดยตนสนับสนุนนายทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไทย แต่สังคมก็ตั้งข้อสงสัยว่าไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่คืนเดียว เป็นการกระทำโดยชอบหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างอ้างว่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ป.ป.ช. ก็ต้องไปตรวจสอบจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
เมื่อถามว่า มองภาพที่นายทักษิณ ออกมา มีแค่เฝือกอ่อนที่แขนและคออย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า สังคมก็ตั้งคำถามเอง ตนไม่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะนิยามคำว่าป่วยร้ายแรง ประชาชนเขามีสามัญสำนึกว่าหมายความว่าอย่างไร นายทักษิณอาจจะป่วยก็ได้ แต่คำแถลงของกรมราชทัณฑ์ กับโรงพยาบาลตำรวจไม่ชัดเจนเอง
“ถ้าชี้แจงชัดเจน ผมว่าสังคมรับได้ ผมไม่ได้แช่งหรืออะไร แต่ถ้าป่วยร้ายแรงผมเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมพุทธ มีความโอบอ้อมอารี ถ้าตัวท่านใกล้จะเสียชีวิตแล้ว หรือท่านอันตรายอย่างยิ่ง ผมว่าคนไทยไม่ใจไม้ไส้ระกำ เพียงแต่วันนี้ เราไม่ได้รับคำยืนยัน วันนี้ยังไม่สาย คุณทักษิณก็ดี ญาติพี่น้องก็ดี หรือแพทย์ใหญ่แถลงตรงไปตรงมา ผมว่าทุกคนก็จบ กมธ.ตรวจสอบ 180 วัน เชิญทั้งหมอจริง หมอปลอมมา และเปลี่ยนคนมาตลอดเวลา คนที่มาชี้แจงผมไม่รู้โดนย้ายไปกี่คนแล้ว เปลี่ยนหน้ามาตลอด เราก็เห็นใจข้าราชการ แต่ผลเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นคนที่รับผิดชอบคือคนที่ปฏิบัติหน้าที่ ” นายสมชายกล่าว
เมื่อถามว่า ในการอภิปรายทั่วไป ของสว. ที่จะเกิดขึ้นจะได้รับคำชี้แจงว่าเป็นประโยชน์เรื่องนายทักษิณหรือไม่ นายสมชาย กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ไม่ทราบเขาจะเลื่อนอีกหรือไม่ เลื่อนจนหมดวาระ มั้ง ก็เคยทำมาอยู่แล้วในอดีต หมด 9 เม.ย. ก็เลื่อนแล้ว ตอนนี้ก็เลื่อนพ.ร.บ. งบประมาณมาแล้วใช่หรือไม่ ถ้าเลื่อนมาใกล้ การอภิปรายก็จะถูกข้ามออกไป แต่ก็ยังอภิปรายได้เพราะยังไม่รับรองสว.ใหม่ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ผมคิดว่าสังคมตั้งคำถามได้อยู่แล้ว คนก็ตั้งคำถามอยู่ในใจ”
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาใจของคน ผิดก็ว่าไปตามผิด จริงอยู่ว่าไม่อยากจะบอก ถ้าสมมติบอกว่าเป็นเอดส์ แต่คงไม่ใช่ ถ้าป่วยร้ายแรงสาหัส ตนคิดว่าคนไทยไม่ติดใจ และตนเคยพูดกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้จัดห้องพิเศษให้นายทักษิณ จะได้ยืนยันว่าเข้าสู่กระบวนการ ตอนนี้สังคมเกิดความเคลื่อนไหวต่อต้าน เพราะมีความรู้สึกว่าไม่ได้เข้ากระบวนการ แต่กระทรวงยุติธรรมก็ยืนยันว่าเข้ากระบวนการแล้ว ซึ่งถามว่าเรียกได้ว่าเป็นศรีธนญชัยทางกฎหมายหรือไม่ ตนคิดว่าเรียกได้