‘สุดารัตน์’ สอนมวยนายกฯ ขาดวิสัยทัศน์แก้ปัญหาโครงสร้างหลักฉุด ศก.โตช้า
“สุดารัตน์” ห่วงอนาคตไทย หลังฟังนายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ ขาดวิสัยทัศน์แก้ปัญหาโครงสร้างหลัก ทำอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย “โตช้า โตต่ำ”
วันที่ 24 ก.พ. 2567 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงวิสัยทัศน์ประเทศไทยในหัวข้อ IGNITE Thailand เห็นว่านายกฯ พยายามเสนอวิธีแก้ปัญหาหลายๆปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคไทยสร้างไทย ก็เห็นด้วย และจะสนับสนุนในหลายประเด็น แต่ที่นายกฯพูดเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นที่ปลายเหตุ ที่เรายังมองไม่เห็นอนาคตของประเทศไทย
เพราะนายกฯ ไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาโครงสร้างหลักๆที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ในการฉุดรั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้เศรษฐกิจไทย“โตช้า โตต่ำ”กว่าศักยภาพของประเทศ และไม่สร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจไทย
ไทยสร้างไทย ขอเสนอ 5 แผนงานในการแก้โครงสร้างสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยโตช้าและโตต่ำคือ
1) การพัฒนาศักยภาพคนไทย ให้ทันวิทยาการของโลกใหม่ เริ่มตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึง 6 ขวบ
การวิจัยพบว่าเด็กไทยตั้งแต่แรกเกิดจะมี IQ ใกล้เคียงกับเด็กทั่วโลก แต่หลังจาก6 ขวบIQ ของเด็กไทยจะน้อยกว่ามาตรฐานสากลอยู่ 1.8%
สาเหตุสำคัญคือเด็กไทยไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอ
นอกจากนั้นต้องมีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาใหม่ทั้งหมดการสอนที่ให้เด็กท่องจำไปแข่งกับ AI เราต้องสอนเด็กไทยให้เป็นผู้ควบคุมและใช้ AIให้เป็น
ต้องลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาด้วยการใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยี ใช้ครูที่เก่งในวิชานั้นๆ ให้สอนออนไลน์จากกรุงเทพฯ ไปถึงยอดดอยได้ เช่นที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงริเริ่มไว้
2) การแก้ไขปัญหาสังคมผู้สูงวัย ปัจจุบันไทยเป็นประเทศ ที่มีผู้สูงวัยเต็มขั้น และจะเป็นประเทศสูงวัยขั้นสุดยอดในปี 2030 หรือมีผู้สูงวัยถึง 28% ของประชากร สถานการณ์ของผู้สูงอายุไทยมีลักษณะ ”แก่จนเจ็บ“ คือสังคมผู้สูงอายุที่มีแต่โรคสุขภาพไม่แข็งแรง ไม่มีเงินและสวัสดิการยามแก่ชราอย่างเพียงพอต่อการยังชีพ จึงทำให้กำลังซื้อของผู้สูงอายุไทยลดลง พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอบำนาญประชาชน 3,000 บาท เพื่อแก้ปัญหา สังคมผู้สูงวัย โดยเงิน 3,000 บาทจะให้พร้อมหน้าที่ โดยเฉพาะการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กลับมาทำงานได้ สร้างรายได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน และจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้ประเทศ
3) การลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยคนตัวเล็ก ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้เป็นทุนในการตั้งตัว “ไทยสร้างไทย” จึงเสนอให้รัฐบาล “แจกเครติต” ให้ประชาชน วงเงินตั้งแต่10,000-100,000บาท แทนการ “แจกเงินดิจิทัล” ที่ไม่ใช่เงินสด ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงชั่ววูบ แต่ต้องทิ้งภาระให้ลูกหลานต้องใช้หนี้มหาศาลถึง 5 แสนล้าน ช่วยให้คนตัวเล็กได้เข้าถึงความรู้ และเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ และหาช่องทางการตลาด
4)การแก้กฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่กดทับโอกาสในการทำมาหากินของคนไทย และเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้คนถูกเจ้าหน้าที่รีดไถ
5)มหันตภัย “โลกร้อน” Climate Change เป็นวิกฤตที่กระทบคนตัวเล็กหนักที่สุดรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง แต่ในการแถลงล่าสุดกลับไม่พูดถึง โดยปัญหาดังกล่าวกำลังส่งผลร้ายต่อชีวิต และเศรษฐกิจของคนตัวเล็ก โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมน้ำแล้ง รุนแรงซ้ำซาก ทำให้หนี้สินเกษตรกร กว่า 8 ล้านครัวเรือนเพิ่มขึ้น
และยิ่งไปกว่านั้น SMEs กว่า 3 ล้านราย ที่จ้างงานกว่า 15 ล้านคน และยังอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทใหญ่กว่า 2,000 ราย นายกฯยังไม่เคยพูดถึงแผนสนับสนุนให้ SMEs เหล่านี้พร้อมรับมือกับ Carbon tax ที่กำลังถูกนำมาใช้เร็วๆนี้เลย