‘พรรคสัมมาธิปไตย’ อาวุธใหม่ ‘สันติอโศก’ 

ม็อบ คปท. ปักหลักชุมนุม ‘ทวงคืนกระบวนการยุติธรรม’ ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ข้างทำเนียบรัฐบาล มานานนับสัปดาห์ แต่ปริมาณผู้ชุมนุมยังไม่เพิ่มขึ้นไปจากเดิมมากนัก

พิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.ยังประกาศจะปักหลักชุมนุมต่อไป และกำลังระดมมวลชนจากต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติมอีก

ว่ากันตามจริง ม็อบ คปท.ยังเดินต่อไปได้ เพราะมีสมาชิกกองทัพธรรมเข้าเป็นกำลังหลักในการชุมนุม พร้อมด้วยเสบียงอาหาร

กองทัพธรรม ได้เข้าร่วมชุมนุมกับ คปท.ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.2567 และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติการชุมนุมในเร็ววัน เพราะพวกเขามีคำขวัญอยู่เย็น อยู่ยาว ไม่มุ่งหาปริมาณเป็นเอก แต่มีปริมาณแสดงออกเป็นประชาธิป ไตย

ก่อนหน้านี้ สมณะโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศก ในวัย 90 ปี แอดมิท รพ.วารินชำราบ ด้วยอาการปอดอักเสบ และออกจาก รพ.กลับราชธานีอโศก เมื่อต้นเดือน ก.พ.2567

ระหว่างพ่อครูของชาวอโศก กำลังพักฟื้นร่างกาย ก็มอบให้หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน นำกำลังจากสันติอโศก บึงกุ่ม กทม.ไปสมทบกับม็อบ คปท.

พลพรรคกองทัพธรรมในม็อบ คปท.นั้น มีแม่ทัพใหญ่คือ หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน แพทย์วิถีพุทธ

หมอเขียวเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ในปีกสันติอโศก ซึ่งจะมารับหน้าที่แทนรุ่นพี่อย่าง ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน และอดีตแกนนำ กปปส.

บนเวที คปท. หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน ได้ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเองนอกจากการเป็นแกนนำของกองทัพธรรมแล้ว ยังเป็นหัวหน้าพรรคสัมมาธิปไตยด้วย 

นับเป็นครั้งแรกที่หมอเขียวเปิดตัว ‘พรรคสัมมาธิปไตย’ กลางเวทีม็อบ คปท. และในฐานะหัวหน้าพรรคสัมมาธิปไตย จึงขอใช้สิทธิตามกฎ หมายในการตรวจสอบการใช้อำนาจของหน่วยงานรัฐและองค์กรอิสระ ตาม พ.ร.ป.ด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 

ดังนั้น พรรคสัมมาธิปไตยจึงเดินหน้าตรวจสอบการทำงานและการใช้อำนาจรัฐของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม กรณีทัก ษิณ ชินวัตร ได้รับอภิสิทธิ์พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลา 180 วัน โดยไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำแม้แต่วันเดียว 

หมอเขียว ได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองต่อ กกต.มาตั้งแต่เดือน มี.ค.2566 และมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่บ้านเลขที่ 777 หมู่ 10 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 

สรุปว่า สำนักงานใหญ่ของพรรคนี้ ก็อยู่ในราชธานีอโศก ที่มั่นใหญ่ของสมณะโพธิรักษ์ ริมฝั่งแม่น้ำมูล 

หมอเขียวอธิบายว่า พรรคสัมมาธิปไตย เป็นพรรคที่รวมพลคนมีศีล มารวมแรงรวมใจ เสียสละเพื่อสังคม 

‘คนธรรมะทำไมมาทำการเมือง เพราะคนธรรมะเป็นคนดี มาทำการ เมือง การเมืองก็จะดี จะเป็นประโยชน์ที่สุดต่อทุกชีวิต แต่ถ้าคนไม่มีธรรมะ คนไม่ดี มาทำการเมือง การเมืองก็จะไม่ดี ก็จะเป็นโทษที่สุดต่อทุกชีวิต’

นี่คือคำตอบ สำหรับผู้ที่กังขาว่า เหตุใดชาวสันติอโศก ชาวกองทัพธรรม จึงตั้งพรรคการเมือง

แนวทางการเมืองของพรรคนี้ จะลงสมัครรับเลือกตั้งเหมือนพรรคทั่วไป แต่จะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ได้ รับเลือกตั้งจะได้รับตำแหน่งหรือไม่ได้ เราก็จะทำดีต่อไปไม่หยุดยั้ง นั่นคือการเมืองโลกุตระ

นับแต่เดือน มี.ค.2566 หมอเขียว หัวหน้าพรรคสัมมาธิปไตย ได้นำพาทีมงานพรรค จิตอาสา และสมาชิกพรรค เชิญชวนผู้คนให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จนถึงเดือน ก.พ.2567 พรรคมีสมาชิกทั้งสิ้น 9,501 คน

อันที่จริง หลายปีก่อน สันติอโศกก็มีพรรคการเมืองชื่อ ‘พรรคเพื่อฟ้าดิน’ มีนโยบายพัฒนาประชาธิปไตย ด้วยการเมืองอริยะ หรือการเมืองบุญนิยม 

แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อฟ้าดินคือ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิ การพรรค ซึ่งเป็นขุนพลเอกของสมณะโพธิรักษ์

การเลือกตั้ง สส.ปี 2554 พรรคเพื่อฟ้าดิน ส่งผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ แต่ระหว่างหาเสียง ทางพรรครณรงค์โหวตโน ตามแนวทางของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

หลังการรัฐประหาร 2557 บทบาทของพรรคเพื่อฟ้าดินก็หายไป และช่วงเวลานั้น สมณะโพธิรักษ์ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เต็มที่

มีข้อน่าสังเกตว่า การเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค.2566 สมณะโพธิรักษ์ไม่ได้แสดงตัวหนุนช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ

ตรงข้าม พ่อท่านโพธิรักษ์กลับสนับสนุนหมอเขียว ไปเตรียมการจัดตั้งพรรคสัมมาธิปไตย ช่วงระหว่างการหาเสียงสมัยที่แล้ว

หมอเขียว กำลังเร่งสร้างแบรนด์พรรคสัมมาธิปไตย ผ่านเวทีชุมนุม คปท. และคาดว่า การเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคการเมืองของชาวสันติอโศกคงพร้อมลงสนามเลือกตั้ง