'เศรษฐา' ตั้ง'วิสุทธิ์' ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ เจ้าตัวลั่นไม่หวั่นซักฟอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ลงนามหนังสือคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องการปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิปรัฐบาล โดยแต่งตั้งให้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล แทนนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยที่ติดปัญหาสุขภาพ 

นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่น อาทิ

• นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานวิปรัฐบาลคนที่หนึ่ง 
• นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานวิปรัฐบาลคนที่สอง 
• น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานวิปรัฐบาลคนที่สาม
• นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นวิปรัฐบาล

วันเดียวกันที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ให้สัมภาษณ์ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า เชื่อว่ารัฐบาลไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก และการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่ายังไม่มีผลงาน ก็เนื่องจากขณะนี้งบประมาณ67 ยังไม่ผ่านสภาฯ จึงส่งผลต่อการเดินหน้าโครงการต่างๆขณะเดียวกันผลกระทบมาจากจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้พิจารณางบประมาณล่าช้าและเป็นเหตุให้ใช้งบประมาณล่าช้าออกไปหรือมีระยะเวลาใช้ประมาณ 5 เดือนเท่านั้น

ยืนยันว่ารัฐบาลมีผลงาน แม้ฝ่ายตรงข้ามอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน แต่ราคาอ้อย ขึ้นตันละเกือบ 2,000 บาท ราคายางพาราขึ้นกิโลกรัมละ 64 บาท และข้าวก็ขึ้นราคา ส่วนผลงานต่างๆที่เป็นรูปธรรมต้องรองบประมาณผ่านก่อน

“หลายคนสงสัยว่ารัฐบาลไม่มีผลงานนั้นไม่จริง ไม่ว่าราคาพืชผลทางการเกษตร หลายตัวราคาขึ้น แต่หลายตัวก็ยอมรับว่ามีปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขปัญหา และรัฐมนตรีหลายคนก็พยายามทำงาน จึงมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ ไม่มีอะไรที่เป็นข้อกังวล” นายวิสุทธิ์กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 153 ของวุฒิสภานั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ และทีมของรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายก็ได้เตรียมความพร้อมที่จะชี้แจงไว้แล้ว จึงไม่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายของวุฒิสภาหรือของฝ่ายค้าน 

เมื่อถามถึง การพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ในวาระ 2 และ 3 จะเข้าสภาฯเมื่อไหร่ นายวิสุทธ์ กล่าวว่าน่าจะไวกว่าเดิม เพราะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบฯ ได้มีการเร่งรัดอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากอนุกรรมาธิการงบฯ ที่เข้าไปทำงานส่งสัญญาณมาว่าจะเร็วขึ้น และไวกว่าปกติ

อย่างไรก็ตามขอย้ำว่างบประมาณยิ่งช้ายิ่งเสียหาย หลายหน่วยงานไม่สามารถจะจัดซื้อจัดจ้างได้ เงินก็ไม่สะพัด หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่มีงบประมาณลงมาใช้ ที่เราช้าเพราะตั้งรัฐบาลได้ช้า ซึ่งมีหลายคนบอกว่าให้ยืดเวลาจัดตั้งรัฐบาล ออกไปเป็น 10 เดือนด้วยซ้ำ นั่นจะยิ่งทำให้เสียหาย แต่วันนี้เราพยายามทำให้ไวที่สุด เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศชาติบ้านเมืองฟื้นตัว