เปิดสัญญา ‘อนุทิน’ โอน STPI 164 ล้านหุ้นให้ บลจ.ดูแล ขอรับประโยชน์ถือเกิน 5%

เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกาศเปิดเผยสำเนาของสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ที่หากรัฐมนตรีผู้ใดประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการถือครองหุ้นในบริษัท ให้แจ้งประธานกรรมการ ป.ป.ช.ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง และให้โอนหุ้นในบริษัทดังกล่าวให้แก่นิติบุคคลจัดการตามกฎหมาย และเพื่อขอรับประโยชน์การถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนเกินร้อยละ 5 ตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543

สัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรีฉบับนี้ ทำขึ้นเมื่อ 27 พ.ย. 2566 ระหว่างนายอนุทิน กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคินภัทร จำกัด โดยนายอนุทินโอนหุ้นในบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) จำนวน 164,590,285 หุ้น (มูลค่าประมาณ 513 ล้านบาทเศษ) คิดเป็นจำนวน 10.13% ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด ให้แก่ บลจ.เกียรตินาคิน ดำเนินการ

สำหรับ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ “STPI” คือหนึ่งในเครือธุรกิจของตระกูล “ชาญวีรกูล” ดำเนินธุรกิจงานแปรรูปและติดตั้งโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure) ระบบท่อ (Piping) โรงงานสำเร็จรูป (Module) และ ผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ (Other Steelwork) ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาคาร รวมทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย

โดยผู้ถือหุ้น 10 ลำดับแรก ก่อนหน้านี้มี นายอนุทิน ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 10.13% ที่โอนหุ้นให้กับบริษัทหลักทรัพย์ฯ จัดการ ส่วนผู้ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 4.79% คือบริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด ที่มี น.ส.นัยน์ภัค ชาญวีรกูล และนายเศรณี ชาญวีรกูล บุตรสาวและบุตรชายของนายอนุทินเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ส่วนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย บิดานายอนุทิน ถือหุ้น 3.5% 
    
STPI นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566) มีสินทรัพย์รวม 12,243.92 ล้านบาท หนี้สินรวม 4,423.72 ล้านบาท รายได้รวม 4,055.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 200.99 ล้านบาท

อ่านรายละเอียดสัญญาจัดการโอนหุ้นฉบับเต็ม: คลิกที่นี่