ปมฝรั่งเตะหมอทำพิษ! ป.ป.ช.ลุยสอบ น.ส.3 ก หาดยามู ฟันพวกรุกที่สาธารณะ

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบชาวต่างชาติทำร้ายชาวไทย กรณี "ฝรั่งเตะหมอ" โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตามที่ได้รับข้อมูลจากสื่อออนไลน์และที่ปรากฏตามสื่อที่กำลังเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ในกรณีเรื่อง ชาวต่างชาติทำร้ายชาวไทย ที่บริเวณหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมีกรณีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ และการบุกรุกที่สาธารณะ รวมถึงประเด็นในเรื่องของ เอกสาร น.ส.3 ก บริเวณแหลมยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นั้น
 
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ วิลล่า บริเวณหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ในประเด็นที่ปรากฎตามสื่อ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เทศบาลตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ร่วมการลงพื้นที่ และสำนักงานที่ดินที่ได้ลงพื้นที่มากำหนดแนวเขตพื้นที่แล้ว ว่าในส่วนใดเป็นที่ของเอกชน และส่วนใดเป็นที่สาธารณะ

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบันไดและสะพานไม้ ที่มีการก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สาธารณะ และได้มีคำสั่งให้มีการรื้อถอนแล้วนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบ ทางเจ้าของวิลล่ากำลังทำการขุดเจาะรื้อถอนออกไปอยู่ โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ และจะขยายผลและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีในส่วนของชายหาดหรือพื้นที่สาธารณะตรงจุดไหนที่มีกรณีรุกล้ำ จะดำเนินการเช่นเดียวกันกับหาดยามู ในส่วนของวิลล่าข้างเคียงและบริเวณโดยรอบหาดยามู เบื้องต้นพบว่ามี วิลล่าที่มีบันไดยื่นมาที่ชายหาด หลายแห่ง ทางเทศบาลตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ได้ให้ข้อมูลว่า ต้องดำเนินการให้ทางสำนักงานที่ดินมารังวัดแนวเขต เพื่อความชัดเจนของแนวเขตที่ดิน และจะนำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่สาธารณะต่อไป 

โดย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการในส่วนของการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวด้วยว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต จะติดตามการดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว และในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่มีกรณีเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่สาธารณะของผู้ที่การแสวงหาผลประโยชน์จากที่สาธารณะของจังหวัดภูเก็ต และฝากประชาชนชาวภูเก็ตทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังในเรื่องของการดำเนินการ และร่วมรักษา ทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดภูเก็ตให้คงอยู่อย่างมั่นคงต่อไป