‘ไทยสร้างไทย’ ร่วมซักฟอก ‘รัฐบาล’ ทวงนโยบายหาเสียง ดิจิทัลวอลเล็ต อัพค่าแรง

นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย พร้อม นางรำพูล ตันติวณิชานนท์ สส.อุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย เป็นตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย ร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และตัวแทน 6 พรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงหรือข้อเสนอแนะ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 

นายชัชวาล เปิดเผยว่า พรรคไทยสร้างไทยโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ได้เสนอแนะฝ่ายบริหารให้ปรับปรุงการจัดทำนโยบาย แต่ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำรัฐบาล ยังไม่สามารถดำเนินนโยบายตามที่ได้ประกาศไว้ต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงอีกหลายนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาได้อย่างเป็นรูปธรรม ตั้งดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท การขึ้นค่าแรง การขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี เป็นต้น

พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเป็นหนึ่งในพรรคฝ่ายค้าน ที่จะสนับสนุนญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 อย่างเต็มที่ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ได้ตรงเป้าหมายที่สุด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สิน หรือการดูคนตัวเล็ก มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างอาชีพอย่างยั่งยื่น 

"ในการอภิปรายเรามีหลายเรื่องที่จะเตือนสติรัฐบาล แต่หนึ่งในเรื่องสำคัญคือการ ชี้แนะรัฐบาลให้ทบทวนโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะจนถึงตอนนี้ยังตกลงไม่ได้ว่าจะดำเนินการแบบไหน อย่างไร อีกทั้งยังเสี่ยงขัดกฎหมาย เป็นภาระงบประมาณระยะยาว พรรคไทยสร้างไทย จะเรียกร้องผ่านการอภิปรายทั่วไป ให้เปลี่ยนจากการเงินหมื่น มาแจกเครดิตให้ประชาชนตั้งตัวได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาส สร้างรายได้อย่างยั่งยืน" นายชัชวาล กล่าว 

นายชัชวาล กล่าวว่า การแจกเครดิตให้ประชาชน จะผ่านกองทุนเครดิตประชาชน หรือกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งเป็นการให้เบ็ดไม่ใช่แจกปลา ให้ทุนในการทำมาหากิน ให้สินเชื่อตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อเดือน รักษาเครดิตได้จะสามารถกู้ได้ถึงหลักแสนบาท เพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง ซึ่งต้นทุนของรัฐบาลอยู่ที่ประมาณ 4เปอร์เซนต์ ดังนั้นรัฐบาลจะมีส่วนต่างในการบริหารจัดการความเสี่ยง ไม่ให้เสียวินัยการเงินการคลัง ไม่เป็นภาระหนี้สินของประเทศชาติ และเกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบ ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่รัฐบาลอยากแก้ไขได้อีกด้วย