‘อนุทิน’ แย้ม ‘ลูกเนวิน’ มีลุ้น รมต. รอบต่อไป โว กก.บห.ภูมิใจไทย แบ็คดีทุกคน
“อนุทิน” เผย กก.บห.ภูมิใจไทย ชุดใหม่ แบ็คดีทุกคน ผุด สโลแกน “เจนใหม่ บ้านใหญ่ พร้อมจะพัฒนา” แย้ม ลูกเนวิน มีลุ้น รมต. ในการปรับครม. ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เมื่อเวลามาถึง ด้าน “ไชยชนก” ชี้ แม้บ้านจะรก แต่ถ้าทุกคนช่วยกันเก็บ ปรับปรุง เลขาฯ พรรค งานก็ไม่หนัก รับต้องพิสูจน์ตัวเยอะ
ที่สโมสรราชพฤกษ์นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวม 16 คน ว่า กรรมการบริหารพรรคทุกคนที่ได้รับเลือกเข้ามาทำงานทุกคนมี แบ็คดี ไม่มีใครมาจากกระบอกไม้ไผ่ อย่างน้อยก็มีหัวหน้าพรรคที่จะเป็น แบ็คให้พร้อมกับสโลแกนเจนใหม่ บ้านใหญ่ พร้อมจะพัฒนา" และการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ไม่ถือเป็นการถ่ายเลือดใหม่ แต่เป็นการผลัดวิตามิน
ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หากเปรียบเทียบเลขาธิการพรรคว่าเป็นแม่บ้าน ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม ถามว่ายากหรือไม่กับบทบาทนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีแม่บ้านแค่คนเดียว หากมองจากข้างหลังจะเห็นว่ามีหลายคน ทุกคนช่วยกันมาตลอด หากจะเปรียบเสมือนพรรคภูมิใจไทยเป็นบ้าน และมีสมาชิกบ้านอื่นอีก ถึงบ้านจะรก หากทุกคนช่วยกันเก็บ และปรับปรุง งานแม่บ้านพรรคก็ไม่หนัก
เมื่อถามว่า ถูกมองว่าเก้าอี้เลขาธิการพรรคถูกล็อคไว้ให้กับ ตระกูลชิดชอบ แต่ประสบการณ์การเมืองยังมีไม่มาก นายเนวิน ชิดชอบ ผู้เป็นพ่อได้ให้คำแนะนำหรือเตรียมแนวทางอย่างไรไว้บ้าง นายไชยชนก กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ปฏิเสธเก้าอี้นี้ถูกล็อค ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ก็ไม่ใช่มองว่าตนเป็นลูกของนายเนวิน และหลานของนายชัย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีโอกาสและมีความคาดหวังตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งให้กับคนในตระกูลเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในภูมิใจไทย ตนเองกลับมองว่าการที่ตนเองมาจากบ้านใหญ่ชิดชอบ ทำให้มีประสบการณ์อย่างที่ส่งเสริมให้เรียนรู้ให้ และพัฒนา ปรับตัวได้เร็วในตำแหน่งนี้ให้มากขึ้น ไม่ผิดที่คนจะมองแบบนั้น แต่อยู่ที่ว่าเป็นความคิดบวกหรือลบ และในความเป็นทายาทของตระกูลชิดชอบ ตนเองมีมุมบวกค่อนข้างเยอะแต่หลังจากนี้ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองและเป็นหน้าที่ของประชาชนและสมาชิกพรรคที่จะตัดสินจากผลงานที่ไม่ใช่แค่การทำงานในบทบาทเลขาธิการพรรค แต่หมายถึงสมาชิกพรรคทุกคนที่จะทำในอนาคต
เมื่อถามว่าจะมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจหลายอย่างในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายไชยชนก ได้หัวเราะก่อนที่นายอนุทิน จะช่วยตอบว่า เลขาธิการพรรคคนใหม่เพิ่งจะรับตำแหน่งหมาดๆ หากไปถามว่าจะตัดสินใจโดยที่หัวหน้าพรรคนั่งอยู่ข้างๆ เจ้าตัวอาจจะเขิน แต่ในเมื่อหัวหน้าพรรคบอกว่าบอกว่าเลขาธิการพรรคสามารถตัดสินใจแทนกรรมการบริหารพรรคอีกหลายคนได้
นายไชยชนก กล่าวเสริมต่อว่า หลายคนอาจไม่เห็นการทำงานภายในของพรรคภูมิใจไทยจึงตั้งคำถามนี้ เพราะสิ่งที่ทำมาก่อนหน้าและที่จะทำในอนาคต แม้จะมีกรรมการบริหารพรรคใหม่เป็นชุดใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ แต่ทุกการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นในวันนี้และอนาคตล้วนมาจากการตัดสินใจและการหารือของผู้หลักผู้ใหญ่และสมาชิกในพรรคทุกคน ไม่ได้เป็นความคิดของตนเอง เพราะทำงานเป็นทีม ทุกคนไม่มีใครเป็นน้ำเต็มแก้ว และไม่มีใครไม่เห็นคุณค่าและประสบการณ์ทางการเมืองทางการเมืองของเจนใหม่ของคนรุ่นเก่า และความหมายของพรรคภูมิใจไทยหากจะพูดถึงคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ไม่ได้หมายถึงอายุ แต่คือกระบวนการและวิธีคิด รวมถึงการทำงานที่จะปรับเปลี่ยนเตรียมตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไปกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมีโอกาสได้เข้าไปทำงานหรือไม่ โดยเฉพาะนายไชยชนก ว่า พรรคภูมิใจไทยทุกอย่างเกิดขึ้นได้เมื่อเวลามาถึง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาวิตกกังวล
นายอนุทิน กล่าวว่า แม้ในวันนี้จะไม่มีผู้อาวุโสของพรรคภูมิใจไทยเข้ามานั่งอยู่ในห้องนี้ แต่กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ล้วนเป็นผลผลิตมาจากคนรุ่นเก่า ผู้อาวุโสที่มากประสบการณ์และมีบารมียังทำหน้าที่อยู่แต่วันนี้เราเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยังแข็งแรง ไม่ใช่ไปรอจนหมดอายุแล้วมาเปลี่ยนแปลง เหมือนที่ตนเองได้บอกในที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า สส.ทุกคนของพรรคภูมิใจไทย อย่าไปหาประชาชนเมื่อใกล้ช่วงเลือกตั้ง เพราะถ้าไปแบบนั้นเหมือนไปลาตาย พรรคจึงเร่งเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยังแข็งแรง มีบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ และมีบุคลากรที่ยังมีความพรั่งพร้อม และกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ไม่ใช่เด็กฝึกงาน เข้ามาไม่ได้เพื่อทดลองงาน แต่ได้ผ่านการทดสอบมาเรียบร้อยแล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า ในทางการเมืองคนที่ผ่านการเลือกตั้งแล้วได้เข้ามาทำหน้าที่ สส. ถือว่าได้ผ่านเส้นทางที่ยากแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องฝีมือหรือความตั้งใจอะไรอีก คนเหล่านี้เข้ามาก็สามารถทำงานได้เลย ยืนยันไม่มีใครถูกบังคับ และตนเองก็รอวันนี้มานานแล้ว และหวังว่าตนเองก็จะไปอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า และมาคอยดูแล กำกับ ให้คำแนะนำและให้กำลังใจกับคนรุ่นใหม่ของพรรค และขอบคุณที่ยังคงไว้ใจให้ตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่การทำงานหลังจากนี้ของพรรคก็ต้องเปลี่ยน ทำงานกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็คงไม่เหมือนกับชุดเก่า และตนก็พร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับคนรุ่นใหม่ และเที่ยวหน้าหวังว่าจะได้ใส่กางเกงเหมือนเลขาธิการพรรค