'กม.สมรสเท่าเทียม' ฉลุย! สภาฯ 399ต่อ10 'เห็นชอบ' วาระ3 ลุ้นสว.ด่านสุดท้าย
กฎหมายหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านฉลุย! สภาผู้แทนราษฎร มีมติ 399ต่อ10 เสียง "เห็นชอบ" วาระ3 ลุ้นสว.พิจารณาด่านสุดท้าย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกมธ.ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ในมาตรา4 ได้กล่าวถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ว่า“ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง” ยืนยันว่าการแก้ไขไฉบับนี้เราทำเพื่อคนไทยทุกคน
ทั้งนี้กมธ.ที่ได้ตั้งขึ้นมาจากสส.จากหลายพรรคการเมือง มีการพิจารณาภายใต้ความหวังจากภาคประชาชนที่รอคอยว่าจะต้องผลักดันกฎหมายให้เร็วที่สุด ร่างฉบับนี้มีจำนวน68มาตรา โดยมี3ประเด็นสำคัญ
1.กมธ.เห็นว่าบทบัญญัติบางมาตราของพ.ร.บ.มีการใช้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมในปัจจุบันจึงมีการปรับถ้อยคำให้เกิดความเหมาะสมเกิดความเท่าเทียมทางเพศ
2.กมธ.เห็นว่าเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการหมั้น และการสมรส ของบุคคลควรกำหนดไว้ที่18ปีบริบูรณ์เพื่อให้ผู้ที่จะทำการหมั้นสมรส มีอายุพ้นจากการเป็นเด็ก เพื่อสอดคล้องกฎหมายในประเทศและการคุ้มครองสิทธิเด็กฯและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยเป็นภาคี
3.กมธ.ได้เพิ่มบทบัญญัติใหม่1มาตรา เพื่อกำหนดให้คู่สมรสมีสิทธิ หน้าที่ ตามกฎหมายอื่นในฐานะสามี ภรรยา
อย่างไรก็ตามในกรณีที่กฎหมายฉบับใดกำหนดสิทธิ หน้าที่ สถานะทางกฎหมายหรือเรื่องอื่นใดแตกต่างกันหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องยังคงต้องทบทวนกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ต่อไป
"วันนี้เราทราบดีว่าไม่ได้มีแค่เพศชาย เพศหญิงอีกต่อไป มีคนกลุ่มหนึ่งที่อาจเกิดเป็นเพศชายหรือเพศหญิง เขาเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นตามสิ่งที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้เราต้องการคืนสิทธิให้คนกลุ่มนี้ ไม่ใช่การให้สิทธิ แต่เป็นการคืนสิทธิที่เสียไป"
หลังจากมีการอภิปรายราย พร้อมลงมติรายมาตราวาระ2เสร็จสิ้น ที่สุดที่ประชุมได้ลงมติให้ความเห็นชอบทั้งฉบับในวาระ3 ผลปรากฎว่า ที่ประชุม 399ต่อ10 เสียง ลงมติ "เห็นชอบ" ร่างพ.ร.บ. โดยมีผู้งดออกเสียง2คนไม่ลงคะแนน3คน
ขณะเดียวกันที่ประชุมมีมติ 393 ต่อ3 เสียง เห็นชอบตามข้อสังเกตของกมธ.โดยมีผู้งดออกเสียง 1 เสียงและไม่ลงคะแนน 4 เสียง
โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพิจารณาในส่วนของวุฒิสภาซึ่งจะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบในด่านสุดท้ายก่อนส่งร่างนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป