'ณัฐชา' ซัด 'เศรษฐา' เป็น นายกฯฝึกงาน ทำประเทศย่ำที่เดิม

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 23.30 น. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152  อภิปรายว่า 7 เดือนของรัฐบาล มีนายกฯ ฝึกงาน ที่ทำอะไรไม่ได้ และบริหารประเทศไทยเหมือนบริษัท ซีอีโอยักษ์ใหญ่ ซึ่งการเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศมีอาการขาดวุฒิภาวะ ต้นเหตุจาก 4 โรคร้าย คือ นายกฯ เป็นคนขวัญอ่อน ผ่านมา7 เดือน นายกฯ ตกใจแล้ว 10 ครั้ง อาทิ เกษตรกรเผาไร่อ้อย, ขายน้ำกระท่อมเกลื่อนเมือง, ค่าไฟแพง ค่าครองชีพสูง, อัตราการเกิดต่ำ ตนคิดว่านายกฯ คงแค่อุทาน  แต่นายกฯ ตอบกลางสภาฯ ไม่รู้ว่ามีการขายน้ำกระท่อมข้างถนน แสดงว่าไม่เคยรับรู้ว่าประชาชนต้องเผชิญปัญหาเรื่องใดบ้าง หากไม่รู้จะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะหากรู้จะได้เป็นไปตามที่หาเสียงว่า เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที

นายณัฐชา อภิปรายด้วยว่านายกฯ เป็นโรคมือบาง หยิบจับไม่เป็นชิ้นเป็นอัน  เช่น กรณีการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ที่สั่งอธิบดีดีเอสไอ ให้ดำเนินการ ทั้งที่เป็นปลายเหตุ ขณะที่ต้นเหตุคือการนำเข้า โดยรมว.คลัง ที่กำกับศุลกากรปล่อยได้อย่างไร ด่าเขาแต่เข้าตัวเอง เพราะไม่รู้ปัญหาต้นตอ ทำแค่แอคชั่นไว้ก่อน ดังนั้นเมื่อเป็นนายกฯ ฝึกงาน เป็นโรคมือบาง หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ทำให้ประเทศอยู่กับที่ ใช้ปากสั่งการ โดยมีข้อสั่งการจำนวนมาก แต่ผลลัพธ์จำนวนน้อยและแก้ปัญหาไม่ได้ เช่น ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมไซเบอร์ นอกจากนั้นนายกฯ เป็นโรคปากเปราะ ที่ทำให้เห็นการแก้ปัญหาอย่างขาดวุฒิภาวะ และกระทบต่อประเทศ เช่นกรณีทะเลาะกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย การนำข้อมูลลับมาเปิดเผยผ่านเวทีต่าง ๆ

“นายกฯ หนีการตรวจสอบ โดย 7 เดือนที่ผ่านมานายกฯ มาตอบแค่2 กระทู้ ที่ชงมาจากพรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ตอบกระทู้ของพรรคก้าวไกล ซึ่งหนีการตรวจสอบ หรือกลัวอาการปากเปราะกำเริบ ทั้งนี้ 4 โรคร้ายที่ทำให้นายกฯ ขาดวุฒิภาวะ และดูเหมือนอาการรุนแรงทุนวัน ผมขอให้นายกฯ มาสภาฯ เพราะจะมีอำนาจเต็มและฉายแววได้ เพราะมีข่าวลือว่าที่ทำเนียบถูกแย่งซีนแล้ว ทั้งนี้ผมต้องการให้นายกฯแสดงความตั้งใจว่าเข้ามาทำงานเพื่อประเทศไม่ใช่เข้ามาเพื่อทำให้กับครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง และผมหวังดีที่ต้องมาเตือนไม่อยากให้รัฐบาลนี้ต้องเปลี่ยนนายกฯกลางทาง”นายณัฐชา อภิปราย.