‘ชัยธวัช’ จ่อขอศาล รธน.ขยายเวลายื่นแจงคดี ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ เหตุเอกสารเยอะ

‘ชัยธวัช’ จ่อขอศาล รธน.ขยายเวลายื่นแจงคดี ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ เหตุเอกสารเยอะ

‘ชัยธวัช’ รับเตรียมยื่นศาล รธน.ขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ‘คดียุบพรรคก้าวไกล’ เหตุเอกสารมีหลายร้อยหน้า ข้อเท็๗จริงประกอบคำร้องเยอะ ชี้ รธน.ฉบับปัจจุบันไม่เคยให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 ที่โรงแรมเมเปิล ย่านบางนา กทม.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกลคำร้องคดียุบพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัย และสั่งให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน ว่า พรรคได้รับแล้วในวันที่ศาลมีมติในที่ประชุม ตอนนี้อยู่ระหว่างที่จะต้องทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ส่วน 15 วันจะเพียงพอหรือไม่นั้น จริง ๆ รายละเอียดค่อนข้างเยอะมาก เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ได้คุยกับฝ่ายกฎหมายอยู่ เอกสารหลายร้อยหน้าเหมือนกัน ทั้งคำร้อง และข้อเท็จจริงประกอบคำร้อง ต้องใช้เวลาเยอะพอสมควร มีแง่มุมเยอะที่จะโต้แย้ง รวมถึงการที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีการไต่สวนเพิ่มเติม ไม่ว่าเป็นข้อเท็จจริง หรือบุคคลพยานผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ แต่เป็นขั้นตอนปกติในศาล การให้ระยะเวลาทำนองนี้เป็นเรื่องปกติ และปกติศาลรัฐธรรมนูญให้ผู้ถูกร้องขยายการยื่นเอกสารได้
    
เมื่อถามว่าลักษณะคำร้องเป็นแบบเดียวกับที่เคยมีคำวินิจฉัยศาลกรณี ล้มล้างการปกครอง เมื่อ 31 ม.ค.หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับ คนละมาตรา คำร้องก่อนหน้านี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 แต่คำร้องรอบนี้เป็นคำร้องอีกแบบหนึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ มาตรา 92 รายละเอียดไม่เหมือนกัน การต่อสู้แก้ข้อกล่าวหาก็ไม่เหมือนกันด้วย

เมื่อซักอีกว่า คำร้องของ กกต.มีการรวมพฤติการณ์ 44 สส.ก้าวไกล ในการยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อเป็นหลักฐานมัดก้าวไกลเพิ่มเติมด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดก่อน ยังไม่มีเวลาดูทั้งหมด เอกสารมีหลายร้อยหน้าเลย
    
เมื่อถามว่า อีกมุมหนึ่งมีการพูดกันว่าหากยุบพรรคก้าวไกล จะยิ่งยุบยิ่งโต มองว่าจะเป็นโอกาสของพรรคในการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การเติบโตของพรรคก้าวไกลของพวกเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยุบหรือไม่ยุบพรรค แต่ขึ้นอยู่กับแนวทางการทำงาน และนโยบายที่จะสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้หรือไม่ นี่คงเป็นเรื่องหลัก คงไม่มีใครหวังว่าตัวเองถูกยุบพรรคเพื่อเติบโตขึ้น เราเชื่อมั่นว่าถ้าพรรคสามารถฝ่าฟันอุปสรรคตรงนี้ไปได้ เรายิ่งเติบโต และยิ่งเข้มแข็ง

นายชัยธวัช กล่าวตอนท้ายด้วยว่า ต้องบอกว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่มีบทบัญญัติมาตราไหนเลยที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมือง ต่างจากรัฐธรรมนูญก่อนหน้าในบางฉบับ เมื่อรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้อำนาจในการยุบพรรคไว้ แต่อำนาจในการยุบพรรคการเมือง ไปปรากฏใน พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เป็นกฎหมายลำดับรองกว่า ดังนั้นยิ่งเห็นว่า อย่างที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกไว้ว่า รัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญสั่งแค่ยุติการกระทำที่ศาลเห็นว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้ยุติการกระทำแค่นั้น แต่อำนาจในการยุบพรรคดันไปปรากฏในกฎหมายลำดับต่ำกว่าคือ พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ 
    
“ยิ่งจะเห็นว่า จุดมุ่งหมายกฎหมายก็ไม่เหมือนกัน ลำดับศักดิ์กฎหมายก็ไม่เท่ากัน แต่โทษที่กำหนดในกฎหมายที่ต่ำว่ากลับร้ายแรงกว่า ยิ่งเป็นกรณีจำเพาะมากเท่านั้นจึงต้องลงโทษร้ายแรงขนาดนั้น ต้องได้สัดส่วนเหมือนที่นายพิธาบอกไว้ และรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจตามกฎหมายอื่นที่กำหนด ยกเว้นกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญเอง” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคก้าวไกลมีการตั้งพรรคสำรอง นายชัยธวัช กล่าวพร้อมหัวเราะว่า เมื่อเช้าดูข่าวอยู่ มีข่าวเรื่องพรรคอนาคตไกล พรรคนี้ชื่อคล้าย ๆ อนาคตใหม่มีการใช้สีส้มด้วย ต้องยืนยันฝากถึงประชาชนว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่สีส้มอาจได้รับความนิยมมากหน่อยในช่วงนี้