ปธ.ศาล รธน.ยันชี้ชะตา 'ก้าวไกล' ไม่ทัน เม.ย.นี้ จ่อไฟเขียวขยายเวลาแจงเพิ่ม
ประธานศาล รธน.เผย 17 เม.ย.ถกคำร้อง 'ยุบพรรคก้าวไกล' จ่ออนุมัติขยายเวลาชี้แจงเพิ่มอีก 15 วัน รอรับฟังมีการขอไต่สวนพยานหรือไม่ แต่ยืนยันไม่ทันชี้ชะตาภายในเดือน เม.ย.นี้ ลั่นไร้ธงชี้นำตัดสิน
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่หลายครั้งถูกสังคม และนักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ยอมรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่วิจารณ์แล้วทำให้บ้านเมืองสงบ และเป็นที่ยอมรับ บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ปัญหาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการวินิจฉัยคดีสำคัญทางการเมือง จะมีแรงกระแทกจากสังคมหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ อีกมุมหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับ เพราะข้อขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ลดลง หากพรรคการเมืองสามารถตกลงเจรจากันได้ในสภา คดีก็จะไม่มาถึงศาลแต่เมื่อสภาตัดสินใจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แสดงให้เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่พึ่ง และพร้อมรับฟังข้อโต้แย้งของทั้ง 2 ฝ่าย และพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้วจึงตัดสินใจ
"ยืนยันว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีธงในการตัดสินคดีและการวินิจฉัยคดีก็ชี้ขาดได้เพียงซ้ายหรือขวา หรือชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ" นายนครินทร์ กล่าว
นายนครินทร์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลขอยื่นขยายเวลาการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคำร้องยุบพรรค เนื่องจากข้อกล่าวหาการล้มล้างการปกครอง ว่า ในวันที่ 17 เม.ย. ในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะนำวาระเข้าพิจารณา โดยอยู่ที่ดุลพินิจของตุลาการ เบื้องต้นอนุมัติให้ขยายเวลา 15 วัน และอาจจะขยายได้อีกตามเหตุสมควร พร้อมรับฟังผู้ขอจะต้องชี้แจงเหตุผล หรือหากจะยื่นพยานหลักฐาน ก็ทำได้เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณา ส่วนกระบวนการวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ยังไม่เกิดเกิดขึ้นภายในเดือน เม.ย.นี้ เพราะการขอขยายเวลาจากพรรคก้าวไกลตามกรอบเลยเดือน เม.ย. ยังไม่ทราบว่าจะมีการไต่สวนหรือไม่
นายนครินทร์ กล่าวอีกว่า หากพรรคก้าวไกลขอมาก็จะรับไว้พิจารณาว่าจะต้องไต่สวนเรื่องอะไร และที่ประชุมจะต้องพิจารณา ปกติจะมีการไต่สวนเรื่องหลักฐาน และบุคคลโดยตุลาการเองพร้อมที่จะรับฟังความเห็น อาจจะให้ผู้รู้ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานเข้ามาชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรโดยไม่จำเป็นต้องมาที่ศาลทั้งหมด
ส่วนที่มีการคาดการณ์ฟันธงว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบนั้น นายนครินทร์ กล่าวว่า เป็นที่คาดการณ์เช่นนั้น แต่ข้อกฎหมายคนละข้อ การตัดสินครั้งที่ผ่านมาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ส่วนการยุบพรรคเป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน นอกจากนี้คำร้องนี้กับกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ก็เป็นคำร้องคนละอย่างกัน
"เราชอบคิดว่าข้อเท็จจริงเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกัน มันต่างกันมาก แค่ชื่อของตัวแสดงทางการเมือง หรือตัวแสดงในคดีก็ต่างกันอยู่แล้วไม่ใช่ตัวแสดงคนเดียวกัน" ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าว
นายนครินทร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในการประชุมครั้งถัดไป จะมีการพิจารณา กรณีรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่ของรัฐสภา เกี่ยวกับการทำประชามติรัฐธรรมนูญว่าจะต้องทำกี่ครั้งด้วย