'พิธา' ย้ำมาเชียงใหม่ไร้นัยการเมือง มองหลายกลุ่มชิง อบจ.เป็นสีสัน
'พิธา' ย้ำคำเดิมมาเชียงใหม่รอบ 2 ไม่ได้ปาดหน้า 'ทักษิณ' แค่บังเอิญมาตรงกัน ไร้นัยการเมือง ชี้เป็นสีสันมีหลายกลุ่มชิงเก้าอี้นายก อบจ. มองไม่มีใครเป็นเจ้าถิ่น ลั่น ปชช.ไม่สมบัติของนักการเมืองคนไหน
เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2567 ที่ จ.ลำพูน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังถูกตั้งคำถามว่าเป็นนักปาด ว่า ยืนยันไม่ได้มาตามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่มาตามว่าผู้สมัครนายก อบจ.และพี่น้องประชาชนมาใช้วันสุดท้ายก่อนหยุดยาวช่วงสงกรานต์ให้เป็นประโยชน์ และอยากใช้โอกาสนี้สื่อสารผ่านสื่อมวลชน เชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้ง อบจ.ให้เยอะ ให้ความสำคัญเท่ากับการเลือกตั้งระดับชาติ อยากให้มาใช้สิทธิ์ เพราะหากคนมาใช้สิทธิ์น้อย ก็ไม่ตรงตามหลักประชาธิปไตยและเสียดายงบประมาณในการเลือกตั้งด้วย ที่ครั้งหนึ่งใช้ 6-7 หมื่นล้าน
เมื่อถามว่า เดินทางมาช่วงเดียวกับนายทักษิณ ซ้ำถึง 2 ครั้งแล้ว อาจถูกเชื่อมโยงได้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ ตอนที่มาครั้งนั้นเพื่อต้องการเรียนรู้การดับไฟป่า และเป็นช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาสภาวะทางอากาศสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ตนมี สส. 7 คนจาก 10 คน และก็ได้รับคะแนนความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 ก็ต้องลงมาช่วย สส.ทำงาน และกลับไปจะได้อภิปรายได้ถูกต้อง ไม่ใช่ความบังเอิญตนตั้งใจมาจริงๆ และไม่ได้ต้องการมาเพื่อการเมืองแต่อย่างใด แต่ต้องการทำหน้าที่อดีตหัวหน้าพรรค หากมีโอกาสอยากเข้าโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วย เรื่องทางเดินหายใจว่าหนักขึ้นจริงหรือไม่
"คิดว่านักการเมืองถ้ายึดโยงกับประชาชนก็ขึ้นมาทั้งนั้น เข้าใจว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เพิ่งลงพื้นที่เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ก็ต้องขึ้นมาปกติอยู่แล้ว ไม่มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่ากระแสของพรรคก้าวไกลใน จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางเจ้าถิ่นอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นเจ้าถิ่นของใคร ประชาชนไม่ใช่สมบัติ ของนักการเมืองท่านไหน แต่ตอนมีความรับผิดชอบกับเชียงใหม่ เพราะเขาเลือกตนมาถล่มทลาย มาเป็นอันดับ 1 ของเชียงใหม่ รวมถึงจำนวน สส. ที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีไฟป่าเยอะก็เป็นเขตของพวกตนทั้งนั้น เพียงแต่ว่าพอเป็น สส.แล้ว ไม่มีงบประมาณ ทำได้แค่ตรวจสอบรัฐบาลหรือเสนอแนะ ก็ต้องลงพื้นที่เพื่อให้ สส.ทำงานได้ เพราะ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นใน จ.เชียงใหม่ ขณะนี้เกิดการแข่งขันกันหลายกลุ่มทั้ง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มนางทัศนีย์ บูรณประกร นายพิธา กล่าวว่า เป็นสีสันทางการเมือง การแข่งขัน ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตนคิดว่ายังเร็วเกินไป หลังจากนี้ก็จะมีเรื่องนโยบายและไดนามิคทางการเมือง ช่วงนี้ตนขอสื่อสารให้คนมาเลือกตั้งอบจให้เยอะก่อน อยากให้รู้ว่าการเลือกตั้ง อบจ.มีศักดิ์มีศรีไม่แพ้ สส.