‘เศรษฐา’ ยิ้มรับ มีโอกาส ควบ ‘รมว.กลาโหม’ ชี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

‘เศรษฐา’ ยิ้มรับ มีโอกาส ควบ ‘รมว.กลาโหม’ ชี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

"เศรษฐา" ยิ้ม หลังถูกถาม ปมควบ "รมว.กลาโหม" ชี้ ทุกอย่างมีโอกาส ขึ้นกับเงื่อนเวลา เผยไม่ทราบ "เพื่อไทย" จ้องยึดคืนเก้าอี้ "ประธานสภา"

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความชัดเจนในการปรับ ครม. มีรัฐมนตรีคนไหนถามอะไรหรือไม่ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สื่อได้เสนอข่าวไปวัคซีนที่ดีที่สุดคือ การทำงานนั่นเอง ตนเชื่อเช่นนั้น และต้องขอบคุณที่สื่อได้เสนอข่าวไป ตอนนี้ทุกท่านยังมุมานะทำงานอย่างเดียว 

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาที่ว่างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย และวันนี้ตนได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการ พรรค พปชร. เรื่องข้าวโพดและอะไรหลายๆ เรื่อง ท่านก็ไม่เห็นพูดอะไรมา 

เมื่อถามว่าในสัปดาห์นี้มีโอกาสนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดคุย ก็คงเป็นการคุยเป็นการส่วนตัวของบางท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอย่างเดียว ก็มีการทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว 

เมื่อถามถึง ตอนนี้นายกฯ จะไปควบรมว.กลาโหม นายเศรษฐา ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า วินาทีนี้ตนยังเป็น รมว.คลัง และเป็นนายกรัฐมนตรีครับ 

เมื่อถามว่า มีโอกาสไปคุมกองทัพหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างมันมีโอกาส และขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลามากกว่า และอย่าพูดถึงว่าถ้าเกิดดีกว่า ไว้เกิดแล้วค่อยว่ากันดีกว่า 

เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไปไม่สุดทาง นายกฯ จะย้ายไปนั่งกลาโหม เหมือนเปลี่ยนม้ากลางศึก นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามเรื่องนี้ ตนคิดว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันชัดเจนไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา 

เมื่อถามว่า จะส่งไม้ต่อให้รมว.คลัง คนต่อไปได้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่จะส่งไม้ต่อกับใครทั้งสิ้น 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึงเก้าอี้ประธานสภาจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะยกเครื่องการทำงานในสภา จึงต้องมีการปรับ ครม. นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการทำงานกับสภาเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่การจะยกเครื่องอย่างไร หรือจะปรับอย่างไรในบริบทปัจจุบันนี้ตนเชื่อว่าทุกๆ คนให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาอยู่แล้ว อะไรที่จะสามารถทำให้ขับเคลื่อนการออกกฎหมาย ระบบตรวจสอบได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ในความคิดของนายกฯ บุคคลที่จะไปทำหน้าที่หลักในการประสานงานฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปก้าวล่วง และไม่ไปพูดอะไร เพราะเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนกับคนที่อยู่ปัจจุบัน อย่าดีกว่า อันนี้ไม่ใช่เรื่องของตน 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์