'อีโต้อีสาน' ยี้ นิด้าโพล ชี้กระแสปชช.-คนอุดรฯ นิยม 'ทักษิณ'
"ธีระชัย" ยันปชช. นิยม "ทักษิณ" ไม่เชื่อนิด้าโพล ชี้ไม่มีกระแสแล้ว พร้อมระบุคนเสื้อแดง ไม่เอา "ณัฐพล" นั่งรมต. แนะให้เอานายทหารที่ไม่เกี่ยวการปราบเสื้อแดงดีกว่า
นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่ระบุเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไม่เชื่อการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกจะมีผลต่อคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย และไม่เชื่อการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง ว่า ตนไม่เชื่อผลนิด้าโพล สส.ที่อยู่ในพื้นที่รู้ดียังมีประชาชนรักนายทักษิณอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่รู้กลุ่มเป้าหมายที่นิด้าโพลสำรวจมีความละเอียดแค่ไหน สำรวจเฉพาะจังหวัดฐานเสียงของพรรคก้าวไกลหรือไม่ และลงไปสำรวจถึงชาวบ้านและเกษตรกรจริงๆหรือไม่ รอบที่แล้วตอนเลือกตั้ง ก็บอกตนจะไม่ได้เป็นสส. แต่ตนก็ชนะเลือกตั้งได้คะแนนท่วมท้น 30,000กว่าคะแนน อย่าเอากระดาษมาเป็นตัวชี้นำ
"ที่บอกนายทักษิณไม่มีผลต่อคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ขอให้มาดูที่จ.อุดรธานี ตนอยากให้นายทักษิณมาที่จ.อุดรธานีเพราะคนอุดรฯคิดถึง ถ้าไม่มีกระแสที่นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำไว้ในอดีต พรรคเพื่อไทยคงไม่ได้สส.ภาคอีสานมากขนาดนี้" นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย ยังกล่าวถึงกระแสต่อต้านของคนเสื้อแดงที่ไม่ต้องการให้นำพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ มาดำรงตำแห่งรมช.กลาโหม ในการปรับครม. ว่า การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากพล.อ.ณัฐพลจะเป็นรมช.กลาโหม แต่ทราบว่าคนเสื้อแดงและกลุ่มคนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมีความไม่สบายใจชื่อพล.อ.ณัฐพลตั้งแต่ตอนที่มีชื่อเป็นรมว.กลาโหมช่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ๆ เวลาผ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังมีความไม่สบายใจอยู่ อย่างน้อยอยากให้เปลี่ยนเป็นทหารคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปราบคนเสื้อแดง ส่วนตัวเป็นห่วงความรู้สึกคนเสื้อแดงไม่อยากให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นในรัฐบาล จนอาจกระทบต่อการบริหารรัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร หากเป็นทหารคนอื่นเชื่อว่าความรู้สึกคนเสื้อแดงน่าจะพอรับได้
นายธีระชัยกล่าวว่า การปรับครม.ควรทำให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด ไม่ควรบอกจะตั้งใครหรือปรับใครออก ต้องรีบทำทันที ยิ่งยื้อกันร่วมเดือนยิ่งไม่ดี จะเกิดการวิ่งเต้น เตะตัดขากัน สิ่งที่น่าห่วงสุดคือการเกียร์ว่างในวงราชการ ถ้ามีข่าวว่ารัฐมนตรีคนใดจะถูกปรับออก ข้าราชการจะไม่ทำงาน รัฐมนตรีสั่งอะไรก็ไม่ทำ รอนโยบายจากรัฐมนตรีคนใหม่ ส่งผลให้การบริหารงานหยุดชะงัก โดยเฉพาะการบริหารงบประมาณรายจ่ายที่ผ่านสภาฯแล้วจะรอช้าไม่ได้ ดังนั้นขอให้รีบปรับครม.ให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด.