‘ภูมิธรรม’ เผย ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เข้า ครม. 23เม.ย. ‘พรรคร่วม’ เอาด้วย ไร้กังวล
“ภูมิธรรม” เผย หลังถก “นายกฯ” พร้อมแกนนำพรรคร่วม เห็นพ้อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ชง “ครม.” 23 เม.ย.นี้ “อนุทิน” พยักหน้า บอกเรียบร้อย ระบุ บ่ายนี้ “คลัง-พาณิชย์” ถกรายละเอียดร้านร่วมโครงการ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ไม่มีอะไร เป็นเพียงการเรียนเชิญหัวหน้าพรรคร่วมทุกพรรคเข้ามาหารือ ก็ถือเป็นวัตรปฏิบัติที่เราตกลงกันจะทานข้าวร่วมกัน เมื่อเป็นรัฐบาลร่วมกัน มีนโยบายสำคัญที่แถลงต่อสภา และได้ตกลงกันแล้วว่า ถ้ามีนโยบายที่เกี่ยวข้องร่วมกันทั้งหมด ก็จะได้พูดคุยกันกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค เพื่อให้เข้าใจประเด็นต่างๆร่วมกัน จะได้มีส่วนช่วยกัน ทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดคุยวันนี้ยังมีเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) เป็นการพูดคุยถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าเงินทองจะเอามาจากไหน ซึ่งก็มีการยืนยันถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ก็ทำความเข้าใจทั้งหมดและทุกฝ่ายก็ไปคุยกัน พรุ่งนี้หลังจากที่พูดคุยร่วมกันแล้วก็จะมีการแถลงให้ชัดเจน
เมื่อถามว่า ในเบื้องต้นพรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องต้องกันในเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม ไม่ตอบคำถาม โดยหันหน้าส่งสัญญาณไปทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจ ที่ยืนให้สัมภาษณ์ร่วมกัน นายอนุทิน พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะระบุสั้นๆ ว่า เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ในรายละเอียดไม่ได้มีข้อกังวลใดสำหรับพรรคร่วมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี ทุกคนแสดงความคิดเห็นเต็มที่ และทำความเข้าใจกันในประเด็นต่างๆ ที่ได้ยินมาจากประชาชน และสื่อมวลชน ก็เอามาคุยกัน ซึ่งในการพูดคุย ทางรมช.คลัง และปลัดคลัง และเลขานุการ รมว.คลัง ก็มาช่วยชี้แจง ทำความเข้าใจ
เมื่อถามว่า รายละเอียดร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ มีความชัดเจนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ถ้าดูจากในลิสต์ของกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนที่เป็นนิติบุคคลเมื่อหักออกทั้งหมดแล้ว เหลือประมาณ 900,000 กว่าราย และยังมีเรื่องบุคคลธรรมดาอีก และอีกหลายส่วน วันนี้จะมีการประชุมกันต่อในตอนบ่าย ระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ทุกอย่างก็ต้องให้มาลงทะเบียน ตนก็เชื่อว่ายังมีอีกเยอะ ทั้งที่เป็นนิติบุคคล ร้านค้า และร้านค้าเอกชนต่างๆ รวมถึงตัวบุคคล อย่าไปมองเพียงแค่ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือบางส่วนที่มีอยู่ เราแค่เปิดทางให้มีการใช้เงินภายในอำเภอ ได้อย่างสะดวกเต็มที่ ให้ราษฎรได้ใช้เงินและเกิดการหมุนเวียน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยืนยันไม่มีปัญหา