เบื้องลึก‘ประชาชาติ’ขอรัฐมนตรี เขย่า‘วันนอร์’-เคลียร์ทางนายทุน?
2มุมมอง ประชาชาติพรรค9เสียง เหตุไฉน?ส่งสัญญาณอยากได้อีก1โควตารัฐมนตรี ทางรอด "เกมเลื่อยขา" หรือ "เคลียร์ทาง" สายตรงนายทุน
KEY
POINTS
- ประชาติมีสส.9คน มี "1รมว.+1ประธานสภา" เหตุไฉนจึงมีการส่งสัญญาณอยากได้อีก1โควตารัฐมนตรี ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยาก
- ท่าทีของ “ทวี” อาจมองได้ว่าเพื่อ“สยบข่าว” หรือ “ต่อรอง” ยอมรับแบบกลายๆว่า เกมเลื่อยขาเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเคยมีอยู่จริง
- หรือลึกๆเป็นการเคลียร์ทางให้“วันนอร์” สามารถสละสส.เปิดทางปาร์ตี้ลิสต์ลำดับถัดไป ถือตั๋วเข้าสภา?
โผครม.เศรษฐา2 ที่ใกล้จะได้เห็นโฉมหน้าในเร็ววัน กว่าจะถึงนาทีสุดท้าย แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างวิ่งวุ่นฝุ่นตลบ
ทว่าในยามที่พรรคร่วมรัฐบาล "ขนาดใหญ่" โดยเฉพาะพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงพรรคลำดับรองใน "ขนาดกลาง" กำลังสาละวนอยู่กับการจัดทำโผสลับปรับเปลี่ยน-โยกย้าย
จู่กลับมีการโฟกัสไปที่พรรคขนาดย่อม9เสียงนั่นคือ “ประชาชาติ” ซึ่งมี1รัฐมนตรีคือ กระทรวงยุติธรรม ตามสูตร “10สส.ต่อ1รัฐมนตรี” แถมได้พ่วง1ประธานสภาฯ
อย่างที่รู้กันการปรับครม.รอบนี้ บรรดา “บิ๊กเนมการเมือง” ต่างประสานเสียงประชาชาติไม่ได้อยู่ในสมการสลับสับเปลี่ยนหรือแลกตำแหน่งเสนาบดี
ทว่าการมีสัญญาณมาจาก “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ออกมาให้สัมภาษณ์ในวันประชุมใหญ่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า “ประชาชาติหวังเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง จะได้ทำงานให้ประชาชนมากขึ้น”
ประเด็นชวนคิดคือ พรรคประชาชาติมี สส. 9 ที่นั่ง ได้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ แถมมีประมุขนิติบัญญัติ เทียบกับพรรคที่มีสส.ใกล้เคียงกันคือ พรรคชาติไทยพัฒนา มี สส. 10 ที่นั่ง กลับได้เพียงเก้าอี้ 1 รัฐมนตรีว่าการเช่นเดียวกันคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถมเกรดรองจากรัฐมนตรียุติธรรมเสียด้วยซ้ำ
เหตุไฉนจึงมีการส่งสัญญาณอยากได้อีก1โควตารัฐมนตรี ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยาก
ไล่ย้อนไปอีกนิดข่าวคราวการปรับครม.ตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้รอบนี้ประชาชาติจะไม่อยู่ในสูตรสลับสับเปลี่ยนกระทรวง
แต่ต้องไม่ลืมว่า ที่ผ่านมามีข่าวออกมาเป็นระยะก่อนโผครม.เศรษฐา2จะเป็นรูปเป็นร่างเสียด้วยซ้ำว่า การปรับครม.อาจกระทบชิ่งไปถึง “ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ” นั่นคือ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เพื่อเปิดทางให้รัฐมนตรีหลุดโผ โดยเฉพาะชื่อของ “หมอชลน่าน ศรีแก้ว”รมว.สาธารณะสุข ที่เคยมีข่าวมาตั้งแต่ก่อนตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเสียด้วยซ้ำ
กระทั่งทั้งคนใน “พรรคเพื่อไทย” ในรัฐบาล รวมถึง “พรรคประชาชาติ” พรรคต้นสังกัด “ประธานวันนอร์” ปฏิเสธเสียงแข็งมาโดยตลอดว่า ไม่มีความคิดดังกล่าว
แต่ความน่าสนใจคือ “วันนอร์” ปฏิเสธข่าวนี้แบบดุเดือดมากกว่า1ครั้ง ในทำนองที่ว่า ประธานสภาไม่ใช่ของรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญฝ่ายบริหารไม่สามารถก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติได้
สำทับด้วย “มุข สุไลมาน” เลขานุการประธานสภา ก็ออกมายืนยันด้วยอีกแรงว่า วันนอร์อยู่ครบ4ปีแน่นอนไม่มีใครบาบังคับได้
ท่าทีของ “วันนอร์” และ “มุข” อาจมองได้ว่า เหมือนส่งสัญญาณกลายๆไปยังพรรคแกนนำให้ “เลิกล้มความตั้งใจ” หากมีความคิดดังกล่าวอยู่จริง
ตัดกลับมาที่ท่าทีของ “ทวี” ที่จู่ๆ ออกมาให้สัมภาษณ์หวังเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง อาจมองได้ทั้ง ทางแรก เพื่อ“สยบข่าว” หรือ “ต่อรอง” ข่าวกดดัน “ประธานวันนอร์” ให้พ้นจากตำแหน่งประธานสภา จึงยื่นเงื่อนไขขอเก้าอี้รัฐมนตรีมาแลก
ยอมรับแบบกลายๆว่า เกมเลื่อยขาเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเคยเกิดขึ้นจริง
ทางที่สอง หวังเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อเคลียร์ทางในพรรค บางข่าวบอกว่าถึงขั้นมีการขอรองนายกฯ อีกกระแสบอกว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งอาจเป็นแค่รัฐมนตรีช่วย
สูตรนี้น่าสนใจตรงที่ หากเป็นรองนายกฯ การสลับ “วันนอร์” จากประธานสภาจากฝ่ายนิติบัญญัติไปนั่งฝ่ายบริหารอาจพอสมศักดิ์ศรี สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียว ส่วนหากเป็นรัฐมนตรีช่วยก็อาจเป็นคนอื่น เช่น “ซูการ์โน มะทา” มานั่งแทน ก็อาจเป็นไปได้
แถมยังได้ทีสะสางสถานการณ์ภายในของพรรคประชาชาติมีปัญหาค้างคา ตั้งแต่ต้องเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภาให้กับพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล
จากดีลเดิมของพรรคประชาชาติ คือ ได้สส.ปาร์ตี้ลิสต์มา 2 ตำแหน่ง ได้แก่ “ประธานวันนอร์ ” กับ พ.ต.อ.ทวี ว่ากันว่ามีการตกลงกับผู้สนับสนุนพรรคว่า “วันนอร์” จะลาออกจากสส. เพื่อเปิดทางให้ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 3 คือ “สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ” สายตรงนายทุน ปัจจุบันได้รับตำแหน่งปลอบใจคือ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถือตั๋วเข้าสภาเปิดทางสู่ตำแหน่งอื่นๆในอนาคต
ทว่าพลันที่“วันนอร์” ต้องรับตำแหน่งประธานสภา จึงทำให้ติดเงื่อนไขต้องเป็นสส.ไม่เช่นนั้นจะหลุดจากประธานสภาทันที
ทำให้“สมบูรณ์” จึงไม่ได้ขยับเป็นสส.ไม่ได้ ฉะนั้นทางออกในการเปิดทาง “สมบูรณ์” เพื่อตีตั๋วเข้าสภายังมีอีกทางคือ “ทวี” ในฐานะปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ2จะเป็นฝ่ายลาออกจากสส.เสียเอง
แน่นอนว่าจนถึงนาทีนี้มีคำยืนยันหนักแน่นจากทั้งพรรคแกนนำ รวมถึงประชาชาติ ปรับครม.รอบนี้จะไม่ถูกเขย่าอย่างแน่นอน
แต่หากเจาะลึก2เหตุผลน่าสนใจว่า ตกลงแล้วเป็นเพราะประชาชาติรู้ดีว่าที่ผ่านมามีสัญญาณเสี่ยงที่อาจถึงขั้นเสียตำแหน่งประธานสภาอยู่จริง จึงจำต้องได้เก้าอี้รัฐมนตรีมาตอบแทน หรือลึกๆแล้วเป็นการเคลียร์ทางสะสางเรื่องราวในพรรคกันแน่!