อดีต สส.ก้าวไกลแฉบ้านเก่า 'สส.ส้ม' เรียกรับเงินหลักหมื่น คาไซต์งานก่อสร้าง
กมธ.แรงงาน-อดีต สส.ก้าวไกล ออกโรงแฉบ้านเก่า กล่าวหา 'สุเทพ ก้าวไกล' เรียกรับเงินหลักหมื่น คาไซต์งานก่อสร้าง จ.ปราจีนบุรี ย้ำต้องจัดการ ทำสภาฯเสื่อมเสีย ลั่นไม่เคยแต่งตั้งหน่วยลับ-หน่วยเฉพาะกิจลงพื้นที่ ชงเรื่อง 'พิพัฒน์' ตรวจสอบแล้ว
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 ที่สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร โดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. ร่วมกับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (อดีต สส.ก้าวไกล) แถลงข่าวกรณีที่มีกลุ่มผู้แอบอ้างเป็นคณะทำงานของ กมธ.การแรงงาน ลงพื้นที่เรียกรับเงินจากโรงงานและไซต์งานในจังหวัดปราจีนบุรี
นายวุฒิพงศ์ กล่าวไล่เรียงเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ได้มีผู้แอบอ้าง กมธ. การแรงงาน ติดต่อเข้ามาที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อลงพื้นที่ก่อสร้างโรงงานของบริษัททุนจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องในวันนั้นเกิดความกังวล จึงโทรศัพท์ชวนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดลงพื้นที่ไปด้วย ซึ่งในวันนั้นผู้ที่แอบอ้างไม่ได้มีเอกสารอะไรมาจาก กมธ.การแรงงาน มีแต่บัตรผ่านเข้าออกอาคารรัฐสภาเท่านั้น ว่าเป็นผู้ติดตาม สส.ท่านหนึ่ง ภายหลังการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ราชการได้เชิญตัวผู้แอบอ้าง ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่
นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.ได้ไปพบ 5 เสือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ากลุ่มผู้แอบอ้าง กมธ.การแรงงาน มีการให้เจ้าหน้าที่ราชการไปยืนเป็นแบล็กกราวน์ให้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับเจ้าหน้าที่ กลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย จึงร้องเรียนมาที่ตนเอง ปรากฎว่าวันที่ 27 เม.ย. กลุ่มผู้แอบอ้างกลุ่มเดิมเกิดความชะล่าใจ ลงพื้นที่ไซต์งานก่อสร้างทางหลวงชนบท เราจึงซักซ้อมแผนกันคร่าวๆ ว่าจะบุกไปจับ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวอ้างชื่อ สส.คนเดิมกับวันที่ 24 เม.ย. โดยทุกคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ กมธ.การแรงงาน จากนั้นได้ควบคุมตัวกลุ่มคนแอบอ้างทั้งหมด 6 คน ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี แต่ใน 3 คนนั้นขับรถหนี คนกลุ่มนี้มักลงพื้นที่ไซต์งานที่มีขนาดกลางขึ้นไป มีคนงานประมาณ 10 คนขึ้นไป จะตระเวนไปก่อนว่ามีความผิดหรือไม่ โดยความเสียหายที่คนกลุ่มนี้ไปแอบอ้าง ข่มขู่ เรียกทรัพย์นั้น ได้เรียกรับเงินจำนวนนับหมื่นบาท
“พฤติกรรมแบบนี้ต้องตั้งคำถามว่าในความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเวลานี้ แล้วใช้เรื่องนี้หาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ บนความเดือดร้อนของประชาชน” นายวุฒิพงศ์ กล่าว
ขณะที่นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า โชคดีที่มี สส.ที่มีความเอาใจใส่และติดตามรวดเร็ว ไม่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น กมธ.การแรงงานโดนแอบอ้างมาหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภาคตะวันออก พื้นที่สมุทรสงคราม สมุทรสาครก็มี หลายคนไปแอบอ้าง
“ผมเรียนยืนยันว่าคณะ กมธ.การแรงงานไม่เคยมีหนังสือ ไม่เคยในการแต่งตั้งเป็นหน่วยลับ หน่วยเฉพาะกิจให้ไปตรวจสอบที่ไซต์งาน ไม่เคยมีหนังสือสักฉบับเดียว และบุคคลกลุ่มนี้ผมไม่เคยรู้จัก และไม่ได้เป็นคณะ กมธ. ของคณะผม ผมฟังมา เป็นเพียงผู้ติดตามของ สส.ท่านหนึ่ง และอยู่ในคณะ กมธ.ชุดผม แต่ไม่ได้สอบถาม” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวด้วยว่า ได้เรียนต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรียบร้อยแล้ว ได้รับแจ้งว่าอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย และไม่ใช่เป็นการกระทำโดยหน้าที่ของคณะ กมธ. ก็ต้องจัดการ เพราะจะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
“ไปไล่บี้ตบทรัพย์ จำนวนที่ได้มาก็หลายหมื่นบาท จึงต้องนำเรียนสื่อมวลชนไปให้บริษัทอื่นๆ และในพื้นที่ที่มีโรงงานแบบนี้ ถ้ามีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นคณะ กมธ.การแรงงาน ก็ขอให้ตรวจสอบและแจ้งมายังคณะ กมธ.การแรงงานด้วย” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าตั้งคณะกรรมการสอบแล้วหรือยัง นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ตั้งกรรมการสอบ เนื่องจากยังปิดสมัยประชุม
เมื่อถามว่า ชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวคือนายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะต้องมีการเรียกมาคุยหรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ต้องมีการสอบถาม แต่โดยส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งนี้ ยังตอบไม่ได้ว่านายสุเทพมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องฟังหลายฝ่าย โดยก็รับปากแล้วว่าจะไปตรวจสอบโรงงานที่ปราจีนบุรี จะไปพบกับทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบตัวเลข แต่ได้รับทราบแล้วว่ามีบริษัทจ่ายไปแล้วสองครั้ง ครั้งละ 2 หมื่นบาท แต่มีบริษัทอีกบริษัทหนึ่งที่ใหญ่กว่า ยังไม่ทราบตัวเลขว่าจ่ายไปเท่าไหร่
ส่วนที่ยังไม่ถามนายสุเทพเลยนั้น นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า เพราะเพิ่งทราบเรื่องเมื่อคืนนี้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และจะมีการเรียกประชุมเร็วที่สุดในวันที่ 8 พ.ค.นี้
เมื่อถามว่าหากนายสุเทพผิดจริง จะถึงขั้นขับออกจาก กมธ.หรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ ระบุว่า เรื่องขับ กมธ.ต้องดูหลายประเด็น เพราะถูกตั้งมาจากสภาใหญ่ แต่ต้องไปดูว่ามีความเกี่ยวพันถึงนายสุเทพหรือไม่ ตามต้องฟังความทั้งสองฝ่าย