ปธ.กมธ.อุตสาหกรรม เชื่อ 'แรงกดดัน-ปัญหาหมักหมม' ชนวน 'อธิบดีกรมโรงงาน' ลาออก

ปธ.กมธ.อุตสาหกรรม เชื่อ 'แรงกดดัน-ปัญหาหมักหมม' ชนวน 'อธิบดีกรมโรงงาน' ลาออก

ประธานกมธ.อุตสาหกรรม เล่าเหตุการณ์"อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม" ประกาศลาออกกลางที่ประชุม เชื่อ "แรงกดดัน-ปัญหาหมักหมม" ยอมรับเสียดายข้าราชการลูกหม้อ พร้อมลั่นเดินหน้าใช้กลไกลนิติบัญญัติแก้กฎหมาย

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ประกาศลาออกกลางที่ประชุมกมธ.ว่า คงไม่ถึงขั้นประกาศกลางที่ประชุมเพียงแต่ว่า กมธ.มีการพูดคุยถึงปัญหาสอบถามข้อเท็จจริงตนในฐานะประธานมีการขอเอกสารความร่วมมือดำเนินการ โดยเฉพาะการประชุมครั้งหน้าที่มีการขอเอกสารไป

แต่ปรากฎว่า ท้ายการประชุมนายจุลพงษ์ ได้แจ้งให้ตนทราบว่า ครั้งหน้าคงไม่สามารถดำเนินการให้ได้เนื่องจากได้ลาออกจากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจเนื่องจากการประชุมตั้งแต่บ่ายจนค่ำก็ไม่มีวี่แววที่จะลาออก
 

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ตนได้ถามปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่นั่งอยู่ติดกันว่าได้ทำการยับยั้งหรือไม่ ทางปลัดกระทรวงแจ้งว่าเพิ่งทราบเรื่องและไม่ได้ตอบอะไร

เรารู้สึกเสียดายอธิบดีเพราะตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกันในกมธ.อุตสาหกรรมก็ได้ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ซึ่งถือว่าเป็นลูกหม้อกระทรวงอุตสาหกรรมและมีความตั้งใจในการทำงานส่วนตัวจึงรู้สึกเสียดาย ตนได้พยายามพูดคุยถามว่าจะไม่ไปทบทวนดูหน่อยหรือ แต่ได้รับคำตอบจากอธิบดีว่าได้ตัดสินใจไปแล้ว

ทั้งนี้เชื่อว่าปัญหาดังกล่าววันนี้เลยจากกรมโรงงานฯไปแล้วเป็นเรื่องปัญหาที่หมักหมมมาหลายปีก่อนท่านจะเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายและงบประมาณฉะนั้นการที่จะแก้ปัญหานี้ได้ไม่ใช่อธิบดีกรมโรงงานคนเดียวและต้องบูรณาการหลายหน่วยงานตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง  

ในส่วนของกมธ.หลังจากนี้จะพยายามติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและหาทางป้องกันทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาวต้องยอมรับว่า การแก้ไขกฎหมายไม่ได้ทำได้ภายใน1-2เดือน แต่กมธ.จะใช้กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติแก้ไขปัญหาดีที่สุด
 

เมื่อถามย้ำว่า  นายจุลพงษ์ ได้แจ้งเหตุผลการลาออกหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า อธิบดีไม่ได้แจ้งเหตุผลแต่เข้าใจว่าเวลานี้มีภาระกดดันหลายเรื่องทั้งจากพี่น้องประชาชนและสังคม ก็เคารพการตัดสินใจ แต่เสียดายในฐานะข้าราชการที่ทุ่มเททำงานมาโดยตลอด

 "แรงกดดันมีอยู่แล้ว แต่แรงกดดันจากไหนผมไม่ทราบอย่างที่บอกเป็นความคาดหวังจากสังคมและพี่น้องประชาชน ที่ต้องการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วท่านก็อาจรับแรงกดดันจากหลายๆส่วนมา"