‘เศรษฐา’ หนุน ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม สกัด ‘รัฐประหาร’ เต็มที่
“เศรษฐา” เผย ยังไม่ได้คุย “สุทิน” ถึงร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม สกัด “รัฐประหาร” แจง อยากถามเหมือนกันเป็นอย่างไร พร้อมหนุนเต็มที่ ถ้าไม่ขวางการส่งเสริมประชาธิปไตย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ได้พูดคุยกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม หรือไม่ เรื่องการเสนอแก้ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงราชการกระทรวงกลาโหม (จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม) เพื่อสกัดกั้นการรัฐประหาร หรือไม่ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเลย ก่อนหน้านี้ตนได้ลงพื้นที่ไป จ.มหาสารคาม และร้อยเอ็ด แต่บังเอิญนายสุทินติดภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนอยากสอบถามดูเหมือนกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่เท่าที่ลงพื้นที่ไป จ.มหาสารคาม และร้อยเอ็ด เป็นการเน้นในเรื่องของปัญหาที่มีมานานคือ การบริหารจัดการเรื่องน้ำ ภัยแล้ง และพื้นที่ทำกินของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้สั่งการข้อแรกไป โดยให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และกระทรวงกลาโหม ดูแลในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าหากมีการเจอกันกับนายสุทินคงได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ตนยืนยันว่ายังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงราชการกระทรวงกลาโหม และยังไม่ได้พูดคุยกับนายสุทิน เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของนายกฯ พร้อมที่จะสนับสนุนการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อสกัดกั้นการรัฐประหารใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “อะไรที่ไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไปสกัดกั้นการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ” แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวจากนายสุทิน ที่มีข่าวว่าจะให้อำนาจนายกฯขอความเห็นชอบจาก ครม.เพื่อสกัดกั้นเรื่องดังกล่าว และเมื่อมีการเสนอเข้ามา จะขอดูรายละเอียดก่อน
เมื่อถามว่า จะไม่ไปเป็นการกระตุกต่อมกองทัพใช่หรือไม่ ในการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่ส่วนตัวมีความเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ และเชื่อว่ากองทัพเองมีความตั้งใจที่ดีในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า เท่าที่สัมผัสกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นทหารที่มีแนวคิดรุ่นใหม่ เปิดกว้างที่จะยอมรับกับการร่างกฎหมายดังกล่าวใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าคืออะไร แต่เชื่อว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งสี่เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ได้มีการพูดคุยกันตลอดมา เชื่อว่าทุกท่านฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก