'ธนกร' ยัน รทสช.ยังแนบแน่น เตรียมจัดสัมมนา สส.12 พ.ค.นี้

'ธนกร' ยัน รทสช.ยังแนบแน่น เตรียมจัดสัมมนา สส.12 พ.ค.นี้

“ธนกร” ยัน รทสช.ยังแนบแน่น เดินหน้าทำงานเต็มที่ทั้งสภาและรัฐบาล เผย พรรคเตรียมจัดสัมมนา สส.12 พ.ค.นี้ มั่นใจ สมาชิกทุกคนรู้หน้าที่ ยึดประโยชน์ ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก

วันที่ 10 พ.ค.2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ  สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ให้สัมภาษณ์สื่อถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติเกิดรอยร้าวหนัก จนล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้น ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ภายในพรรค ยังเป็นหนึ่งเดียวเหนียวแน่น พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยการนำของหัวหน้าพรรค นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำและเลขาธิการพรรคซึ่งเข้าใจคนรุ่นใหม่ และประสานความร่วมมือของคนทุกรุ่น ให้ทำงานยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาก่อนเรื่องส่วนตัว 

เมื่อถามว่าในช่วงหลังมีข่าวหนาหูว่าภายในพรรครทสช.แบ่งเป็นก๊ก เป็นกลุ่มจริงหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า เรื่องการพูดคุยหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีกลุ่มที่สนิทชิดเชื้อกันมานานและทำงานในพื้นที่เดียวกัน แต่ภายในพรรคยืนยันว่า ไม่มีการแบ่งก๊กแบ่งเหล่า แบ่งกลุ่มส่วนที่มีข่าวว่าพรรคแตกนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะในวันที่ 12 พ.ค.นี้ พรรครวมไทยสร้างชาติเตรียมจัดสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค เพื่อกำชับการทำงานในพื้นที่ การทำงานในสภา รวมถึงในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูแลกระทรวงต่างๆ เพื่อให้พรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถเป็นที่พึ่งและแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ 

“รทสช.เราเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างมืออาชีพ ทำทุกบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ไม่มีขัดแย้งแตกแยกอย่างที่เป็นข่าว มั่นใจว่า สมาชิกและสส.ทุกคน ตั้งไจทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าต่อยอดงานจากรัฐบาลชุดที่แล้ว สร้างและพัฒนางานใหม่ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เรายึดมั่น ทำแล้ว ทำอยู่และทำต่อ หวังจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”

เมื่อถามว่าพรรคได้เตรียมสส.ที่จะมาแทนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อดีตรมช.คลังที่ลาออกไปแล้วหรือไม่นั้น นายธนกร กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคจะพิจารณาตามความเหมาะสม