‘ปางโหลง’ ฉบับอ้ายแม้ว ศูนย์รวมจอมยุทธ ‘ชาติพันธุ์’

การประชุมสันติภาพปางโหลงแห่งศตวรรษที่ 21 สมัยออง ซานซูจี เป็นที่ปรึกษาแห่งรัฐ เมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ได้รับความสนใจจากผู้คนทั้งโลก

พ.ศ.โน้น ผู้แทน ‘กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์’ ทั้งที่ลงนามหยุดยิง และไม่เคยเข้าร่วมเจรจาหยุดยิง พร้อมภาคประชาสังคมกว่า 230 คน เข้าร่วมในการประชุมปางโหลงฉบับซูจี

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร จัดการประชุมนอกรอบตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 4-5 กลุ่ม ที่เชียงใหม่ กลายเป็นข่าวดัง บางคนแอบแซวว่า นี่คือ ‘ปางโหลงฉบับอ้ายแม้ว’

ทำไมต้องเป็นเชียงใหม่ คำตอบคือ เชียงใหม่เป็นแหล่งชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ ของผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไทใหญ่ใต้ กะเหรี่ยงแดง กะเหรี่ยงเคเอ็นยู กะเหรี่ยงบีจีเอฟ ฯลฯ

3-4 ปีมานี้ พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(RCSS/SSA) ได้ประชุมตัวแทน 10 กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ที่ได้ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) กับรัฐบาลเมียนมา ที่ จ.เชียงใหม่ เกือบทุกปี

แม้แต่ตัวแทนชาติตะวันตก และอาเซียน อยากพบปะแลกเปลี่ยนกับผู้กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ก็มักจะนัดเจอกันที่เชียงใหม่

เชียงใหม่ กลายเป็นศูนย์รวมของจอมยุทธชาติพันธุ์แดนใต้ ไม่ต่างจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ที่เป็นศูนย์กลางจอมยุทธชาติพันธุ์แดนเหนือ

ดังนั้น กระแสข่าวทักษิณ นัดพูดคุยยกแรก จึงมีรายชื่อตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (KNPP) 

รวมถึงการได้พบกับ พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(RCSS/SSA) แบบตัวต่อตัว

ปัจจุบัน ฐานที่มั่นของกองทัพไทใหญ่ใต้(RCSS/SSA) อยู่บนดอยไตแลง ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และฐานทหารบางส่วนอยู่ในดอยก่อวัน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่b

ว่ากันว่า สำนักงานตัวแทนของเจ้ายอดศึก ก็อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ และไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประสานกับกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้คือ ทีมงานของ เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

(พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(RCSS/SSA) )

มีรายงานข่าวว่า พล.ท.บอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ได้รับการประสานงานให้มาพบกับอดีตนายกฯทักษิณด้วย

นัยว่า ผู้ประสานงานเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า พล.ท.บอจ่อแฮ เป็นตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU)

พล.ท.บอจ่อแฮ เคยเป็นผู้บัญชาการ KNLA กองพลที่ 5 ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองมูตรอ หรือเมืองผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

จริงๆแล้ว KNLA กองพลที่ 5 จ.มูตรอ เป็นกะเหรี่ยง KNU สายแข็ง และไม่ยอมเข้าร่วมการเจรจากับรัฐบาลเมียนมา โดยเฉพาะกลุ่ม พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย

(พล.ท.บอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง )

ต่างจากกับกลุ่ม พล.อ.มูตู เซโพ อดีตประธาน KNU ที่ได้เข้าร่วมการเจรจาหยุดยิงทั่วประเทศ เพราะกลุ่มนี้ มุ่งเน้นการดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในรัฐกะเหรี่ยง จึงต้องร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมา

ในที่สุด อดีตนายกฯทักษิณ ก็ต้องนัดพูดคุยกับตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) ที่กรุงเทพฯ เพราะการเจรจากับกลุ่ม KNLA กองพลที่ 5 ไม่บังเกิดผล

ทุกวันนี้ ซอ กวยวินทู เป็นประธาน KNU และ พล.อ.ซอ จอนี่ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยง KNLA ซึ่งว่ากันจริง KNU เป็นองค์กรปีกการเมือง ที่คุมกลุ่มยังเติร์กกะเหรี่ยงไม่ได้

อีกกลุ่มหนึ่งที่ทักษิณ อาจเจรจาผิดกลุ่มคือ พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (KNPP) ซึ่งกำลังสู้รบร่วมกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน กำลังจะยึดเมืองลอยก่อ เมืองหลวงของรัฐกะยาได้แล้ว

(ซอ กวยวินทู เป็นประธาน KNU)

พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (KNPP) มีกองกำลังติดอาวุธของตัวเองเรียกว่า กองทัพคะเรนนี (KA) มีนายพลบีทู เป็นผู้บัญชาการ ตั้งฐานที่มั่นอยู่ในป่าเขา ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำสาละวิน ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

นายพลบีทู เป็นนายทหารที่มีอุดมการณ์เด็ดเดี่ยว และไม่ยอมเข้าร่วมเจรจาหยุดยิงเหมือนกลุ่มเจ้ายอดศึก และ พล.อ.มูตู เซโพ

(นายพลบีทู ผู้บัญชาการกองทัพKA)

สรุปแล้ว ปางโหลงฉบับอ้ายแม้ว น่าจะล่มตั้งแต่เริ่มต้น เพราะผู้ประสานงานเชื้อเชิญกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์มาเจอทักษิณ ไม่เข้าใจสภาพของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านั้น

ปางโหลงแห่งศตวรรษที่ 21 ฉบับออง ซานซูจี ยังไม่คืบหน้า ปางโหลงฉบับอ้ายแม้ว ก็ไม่ต่างละครคั่นเวลาของอดีตผู้นำไทย ที่ไม่รู้เขารู้เรามากนัก