'กมธ.การเงิน' ชง 'สรรพสามิต' ทบทวนภาษียาสูบ หวังราคาลด-ช่วยเกษตรกรทางอ้อม
"กมธ.การเงิน สภาฯ" เผยผลศึกษาญัตติแก้ปัญหาราคายาสูบ ชงสรรพสามิต ทบทวนภาษี หวังลดราคาบุหรี่-ช่วยเกษตรกรทางอ้อม-จี้กรมศุลฯ เร่งปราบบุหรี่เถื่อน-ไฟฟ้า
ที่รัฐสภาา นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การเงินการคลัง ใน กมธ.การเงิน การคลังสถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาฯ แถลงถึงผลการศึกษาตามญัตติที่สภาฯส่งให้พิจารณาแก้ปัญหายาสูบและยาเส้นราคาตกต่ำ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ว่า อนุกมธ.ฯ พิจารณาศึกษาโดยได้เชิญญตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ อาทิ กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร การยาสูบแห่งประเทศไทย ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย และสมาคมอนุรักษ์ยาเส้น พื้นเมืองไทย โดยมีผลพิจารณาและข้อเสนอดังนี้
1.อนุกมธ.มีข้อเสนอให้ปรับราคารับซื้อใบยาสูบ โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ปรับขึ้นราคาใบยาสูบทุกสายพันธุ์ 10% ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.67 รวมถึงปรับเพิ่มโควตารับซื้อใบยาสูบในประเทศจากเกษตรกร สนับสนุนปัจจัยการผลิตยาสูบในปีฤดูกาลผลิต 66/67
2.กรมสรรพสามิต ศึกษาจัดทำแนวทางปรับอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่
3.กรมศุลกากร พัฒนาแนวทางปฏิบัติการร่วมในการป้องกันและปราบปรามลักลอบนำเข้าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงแจ้งให้หน่วยงานปฏิบัติตามแผนดังกล่าวเพื่อสกัดการลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย
นายจิตติพจน์ กล่าวด้วยว่าอนุกมธ. มีข้อเสนอไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้พิจารณาดำเนินการ ได้แก่ คณะกรรมการยาสูบฯ ควรพิจารณาปรับขึ้นราคาใบยาสูบย้อนหลัง ถึงม.ค.67 ให้เกษตรกรเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ
2.กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต เร่งปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายและบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป็นสาเหตุให้ปริมาณจำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายลดลง ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรรผู้ปลูกยาสูบ
3.ให้กรมสรรพสามิตทบทวนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่ เพื่อไม่ให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น ที่ส่งผลกระทบทำให้ผู้สูบบุหรี่ลดลงและกระทบต่อการจัดเก็บภาษี รวมถึงทำให้มีบุหรี่ผิดกฎหมายและบุหรี่ไฟฟ้าชนนิดน้ำเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นควรพิจารณาปับเพิ่มจำนวนของปริมาณการผลิตยาเส้นที่จัดเก็บอัตราภาษีตามปริมาณในอัตรา 0.025%ต่อกรัม เพื่อช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมยาเส้นในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เงินลงทุนไม่มาก.