'กมธ.อุตสาหกรรม' ห่วงเกิดเหตุไหม้ รง.เก็บกากเคมีซ้ำ ขอหน่วยงานเฝ้าระวัง
‘กมธ.อุตสาหกรรม’ เผยปฏิบัติการขนย้ายกากแคดเมียมกลับจ.ตาก เสร็จภายใน16มิ.ย. - นำเคลียร์ฝังกลบ 30ก.ย. พร้อมห่วงเกิดเหตุซ้ำ ขอหน่วยงานเฝ้าระวังต่อเนื่อง 120วัน
ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯว่า จากที่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงความคืบหน้าการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมกลับไปที่บ่อบำบัดจ.ตาก โดยขนย้ายแล้วทั้งสิ้น14% และใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนย้าย 100 % จะมีการขนย้ายแล้วเสร็จจำนวน 1,806 ตัน ภายในวันที่16 มิ.ย. รวมถึงจะฝังกลบให้แล้วเสร็จภายในวันที่30ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ส่วนการคืนพื้นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่าขณะนี้สามารถคืนพื้นที่กรุงเทพฯได้แล้ว โดยกรมควบคุมมลพิษตรวจสอบพื้นที่ไม่พบโลหะแคดเมียมที่เป็นโลหะอันตราย ถือว่าปลอดภัย
ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ขณะที่การดำเนินคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ชี้แจงว่าไม่สามารถดำเนินการกับผู้ประกอบการได้ใน 2 คดี คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี2535 ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน ว่าด้วยการนำปฏิกูลหรือวัตถุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และ กรณีแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้แลอื่นหรือประชาชนเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา137 สามารถดำเนินการได้
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณากรณีเกิดเพลิงไหม้ในโกดังที่มีวัตถุอันตราย ในพื้นที่ อ.ภาชี จ.อยุธยา โดยผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน120วัน ใช้งบประมาณจำนวน6.9ล้านบาท ในการย้ายกากอุตสาหกรรมไปดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามหลักอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม รวมถึงได้ออกหมายจับผู้เช่าโกดังแล้ว ขณะเดียวกันยังให้เฝ้าระวังโกดังเก็บกากของเสียที่อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะทางกมธ.ฯ กังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยไฟไหม้ที่อ.มาบตาพุด จ.ระยอง และอ.ภาชี จ.อยุธยา
“ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงระบุว่าทั้ง3โรงงาน มีความเชื่อมโยงกันของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถบรรทุก ผู้ถือหุ้น หรือผู้เกี่ยวข้องที่ทำธุรกิจร่วม จึงขอให้หน่วยงานของรัฐไปเฝ้าระวัง เมื่อครบ120วันแล้ว ทางกมธ.ฯจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งต่อไป” ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าว.