‘จิรพงษ์’ เผย ‘สธ.’ เชิญ 4หน่วยงาน ถก ร่างกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติด 17พ.ค.
“รองโฆษก สธ.” เผย “สมศักดิ์” เชิญ “ตำรวจ-อัยการ-กฤษฎีกา-เลขาฯ ศาลยุติธรรม” ร่วมประชุม ร่างกฎกกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ-วัตถุออกฤทธิ์ กรณีครอบครองเพื่อเสพ 17พ.ค.นี้ แล้วทำประชาพิจารณ์ทันที จับมือ ยธ. บำบัด เล็งใช้ยาฉีดแทนกิน ดีต่อผู้ป่วยทางจิต
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขอย่างไม่เป็นทางการ นำโดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอร่างกฏกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่... ) พ.ศ..... ซึ่งจะมีการประชุมพิจารณาร่างดังกล่าว ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ สำนักงานกฤษฏีกา เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม มาร่วมพิจารณา โดยส่งร่างกฏกระทรวงดังกล่าวให้พิจารณาก่อนแล้ว และขึ้นทำประชาวิจารณ์ในวันเดียวกับที่ประชุมเลยเพื่อความรวดเร็ว
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากร่างกฏกระทรวงดังกล่าว จะทำให้มีผู้ถูกจับกุมมากขึ้น ดังนั้น นายสมศักดิ์ จึงสั่งการเตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแบ่งเบาช่วยเหลือกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะปรึกษาหารือกันกับกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะกรมควบคุมความประพฤติ และผู้ที่จะเกี่ยวข้องกับการรับกลุ่มสีเขียวมาบำบัดชึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากว่าแสนคน ส่วนในกรณีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดอย่างรุนแรง มีอาการทางจิตมารักษา ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็มีความพร้อม โดยในกลุ่มอาการสีแดง สีส้ม และสีเหลือง ประมาณ 6,500 เตียง
“เมื่ออาการทุเลา จะปล่อยกลับบ้าน แต่ผู้ป่วยยังต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ โดยนายสมศักดิ์ จะเสนอให้ยาทดแทนชนิดแบบฉีด ซึ่งกำลังจัดทำข้อมูลของยาฉีด แอนตี้ไซโคติก ลองแอคติ้ง ที่ใช้ในผู้ป่วยกลุ่มรุนแรงสีแดง ที่บำบัดครบถ้วนแล้ว แต่ไม่สามารถทานยาได้สม่ำเสมอ หรือ ไม่กินยาต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอาการแทนแบบชนิดรับประทาน ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วยทางจิต จะไม่ขาดยา ชึ่งยาฉีดดังกล่าวมีประสิทธิภาพครอบคลุมได้ 1 เดือน ดังนั้น จะช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความหวาดกลัวว่า ผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิต จะขาดยาและไปทำอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่นได้” รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง กล่าว