'นายกฯ' ยันตั้ง 'พิชิต' นั่ง รมต. ส่งกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว มั่นใจทำถูกต้อง
"เศรษฐา"ยันไม่เมินเสียงคัดค้านตั้ง "พิชิต" นั่งเก้าอี้ รมต.เผยส่งกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว มั่นใจทำหน้าที่ถูกต้องชอบธรรม ชี้ สว.ร้องศาลวินิจฉัย ถือเป็นหน้าที่ ย้ำ ยังเก็บโควต้า รมต. ให้ รทสช. ส่วนจะนั่งกระทรวงเดิมหรือไม่ ค่อยคุยกัน
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ที่สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างการปฏิบัติภารกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 40 วุฒิสมาชิก (สว.) เข้าชื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังมีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ( 5) โดยนายกรัฐมนตรี
โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามกลับว่า สว. ยังไม่หมดอายุใช่หรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่ายังไม่หมด แต่ก็ใกล้แล้วต้องรอได้สว.ชุดใหม่มาก่อน ชุดเก่าถึงจะพ้นหน้าที่ ทำให้นายเศรษฐา ถึงกับร้องอ๋อ พร้อมกล่าวว่า
"ผมคิดว่าท่านก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะถือเป็นหน้าที่ของสว. ส่วนตัวของผมก็ต้องพิสูจน์ ในเรื่องที่ผมทำไปว่าเป็นเรื่องที่ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย และผมก็เคยบอกไปแล้วว่าก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง ให้นายพิชิต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการสอบถามไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และผมมั่นใจว่า จะสามารถตอบคำถามได้ เพราะอยู่บนหลักการของความถูกต้อง แต่แน่นอนว่าฝ่ายตรวจสอบก็มีหน้าที่ ที่จะตรวจสอบ และผมเองก็ต้องยอมรับและต้องมานั่งดูว่ามีเหตุและผลหรือเปล่า ซึ่งเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ผมขออนุญาตไม่เข้าไปพูด เพราะถือว่าเป็นไปตามกลไกการปกครองของประเทศไทยอยู่แล้ว“
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางสว.ระบุว่านายกรัฐมนตรี เมินเสียงคัดค้านในการแต่งตั้งนายพิชิต นายเศรษฐา กล่าวว่า ธรรมดาในการที่ตนจะแต่งตั้งรัฐมนตรี ตนไม่ได้ถามทางกฤษฎีกาในทุกๆกรณีไป แต่กรณีของนายพิชิต ยืนยันว่าตนไม่ได้เมิน และยืนยันว่าทุกๆเสียงที่มีการท้วงติงเข้ามาได้พิจารณามาโดยตลอด ตรงนี้ตนมั่นใจ กรณีของนายพิชิตตนก็ได้ทำ โดยได้ถามไปยังกฤษฎีกาไปโดยเฉพาะเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรจะต้องทำอยู่แล้ว
"ยืนยันไม่เคยเมินเสียงคัดค้าน และไม่เคยที่จะไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่รับฟังเสียงท้วงติง อย่างที่ผมได้บอกมาตลอดเวลาว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญ"นายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลงในสัดส่วนของภาพรวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)นั้น ก็เก็บไว้ให้พรรครวมไทยสร้างชาติเขา แต่ถึงวันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ได้มีการติดต่อมา หากมีการเสนอก็ต้องมีการพูดคุยกันต่อไป แต่ยืนยันว่าเป็นโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อถามว่าโควต้าดังกล่าวหมายถึงจะยังคงเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเดิมใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่เราอยู่ด้วยกัน เราต้องรับฟังความคิดเห็นกันก่อน โดยเฉพาะความคิดเห็นจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านอยากได้อะไร หรือมีความคิดอย่างไร
”ผมเชื่อว่า ทั้งผมและท่านรองนายกฯพีระพันธุ์ ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน หากคิดว่ากระทรวงที่ท่านเสนอมาจะทำงานได้ อย่างเหมาะสมในกระทรวงอะไร คิดว่าเราพูดคุยกันได้ แต่หากไปกระทบกับพรรคอื่นก็ต้องพูดคุยกันในวงกว้างขึ้นก็เท่านั้นเอง“นายกรัฐมนตรีกล่าว