ประวัติ ‘ลูกเกด’ จากเสนาธิการม็อบสู่ สส.ก้าวไกล ก่อนศาลสั่งคุกคดี ม.112

กรณีศาลจังหวัดปทุมธานี พิพากษาจำคุก 3 ปี “ชลธิชา แจ้งเร็ว” หรือ “ลูกเกด” สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ความผิดตาม มาตรา 112 แต่ลดโทษให้เหลือ 1 ใน 3 คงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา จากกรณีการชุมนุมที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง เนื่องจากเนื้อหาคำปราศรัยเกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.ระเบียบราชการในพระองค์ 2560 และการใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว

สำหรับ “ลูกเกด ชลธิชา” เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักเคลื่อนไหว-นักกิจกรรมทางการเมือง เธอเป็นนักกิจกรรมรุ่นเดียวกับ “รังสิมันต์ โรม” ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคก้าวไกล โดยเธอเคลื่อนไหว ต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงหลัง รัฐประหาร ปี 2557 ทำให้ถูกจับกุมคุมขังราว 12 วัน 

หลังจากนั้น เธอยังยืนหยัดต่อสู้ในฐานะแกนนำมาโดยตลอดจนมีคดีติดตัวหลายสิบคดี ตั้งแต่เป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ โดยทำกิจกรรมในนามกลุ่มกราฟเสรีเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) และเป็นหนึ่งในผู้นำศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) ออกมาคัดค้าน คสช. ตั้งแต่ปี 2558 ต่อมาได้ร่วมเคลื่อนไหวกับ “รังสิมันต์ โรม” ในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และพัฒนามาเป็นกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หลังจากนั้น “โรม” ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ส่งไม้ต่อให้ “ลูกเกด” ดูแลกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย

อ่านข่าว: ด่วน! ศาลสั่งคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา 'ลูกเกด' สส.ก้าวไกล คดี ม.112

โดยระยะหลัง กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) มีลักษณะกึ่งองค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชน “ลูกเกด” และมิตรสหายรุ่นเดียวกัน ได้ขับเคลื่อนทั้งบนท้องถนน รวมถึงในสภาฯ ผ่าน “รังสิมันต์ โรม” พร้อมเพื่อน สส.ก้าวไกล กระทั่งเรียนจบ ยังคงเดินทางบนถนนการเมืองในฐานะนักกิจกรรมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะในช่วงม็อบคณะราษฎรระหว่างปี 2562-2564 ภาพลักษณ์ของ “ลูกเกด” คือการเจรจากับตำรวจ เพื่อเปิดพื้นที่การชุมนุมเรียกร้อง จนได้รับฉายากลาย ๆ ว่าเป็น “เสนาธิการม็อบคนรุ่นใหม่”  

ในช่วงเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่ากันว่าเธอมีบทบาทสำคัญในเรื่องการประสานงานกับ “ตัวแทนทูต-องค์กรระหว่างประเทศ” หลายองค์กร สะท้อนให้มีบทวิจารณ์ หรือท่าทีของต่างประเทศเกี่ยวกับการรัฐประหารออกมาจำนวนไม่น้อยในช่วงเวลาดังกล่าว

กระทั่งเธอตกเป็น ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 จากการชุมนุมทางการเมือง ต้องติดกำไล EM อยู่นาน ตัดสินใจลงสมัคร สส. ในนามพรรคก้าวไกล เป็นเขตที่เคยมี “งูเห่าอนาคตใหม่” ลงสมัครมาก่อน และท้ายที่สุดได้รับคะแนนเสียงชนะการเลือกตั้งในสมัยแรกได้

หลังการเลือกตั้ง 2562 การเมืองปทุมธานี ถูก “สายลมสีส้ม” แห่งการเปลี่ยนแปลงทำลาย “ค่ายสีแดง” เสียยับเยิน สมัยพรรคอนาคตใหม่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคขณะนั้นส่ง อนาวิล รัตนสถาพร ลงสมัคร และชนะการเลือกตั้งได้สำเร็จ ต่อมาเกิดปรากฏการณ์ “งูเห่าสีส้ม” โดย “อนาวิล” คือหนึ่งในนั้น ทำให้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ “คณะก้าวหน้า” ที่มี “ธนาธร” เดินเกมจับมือเป็นพันธมิตรกับ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในนามกลุ่มคนรักปทุม ชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี เอาชนะบ้านใหญ่ “ชาญ พวงเพ็ชร” ที่ขณะนั้นสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้สำเร็จ

โดย “บิ๊กแจ๊ส” แต่งตั้ง “โต นวนคร” สิระพงษ์ สิริโพธินันท์ เป็นรองนายก อบจ. เขาคือผู้ก่อการอนาคตใหม่ปทุมธานี และเป็นแม่ทัพที่ปลุกปั้น “อนาวิล” จนเป็น สส.ปทุมธานี มาแล้ว แต่เมื่อเกิดกรณี “งูเห่า” ขึ้น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ชัยธวัช ตุลาธน” ส่ง “ลูกเกด” ลงชิงชัย จึงมี “โต นวนคร” เป็น “ลมใต้ปีก” คอยหนุนหลัง จนได้เป็น สส.ในปี 2566 ที่ผ่านมา

กระทั่งล่าสุด “ลูกเกด” ถูกศาลจังหวัดธัญบุรี พิพากษาจำคุกคดีมาตรา 112 โดยไม่รอลงอาญา จับตาศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ หากไม่แล้วถูกส่งไปเรือนจำ จะต้องพ้นเก้าอี้ สส.ทันที ตามบรรทัดฐานคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีม็อบ กปปส. ที่ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์-ถาวร เสนเนียม” เคยโดนมาแล้ว