112 เบรก ‘ทักษิณ’ ชะงัก ‘เศรษฐา’ ซุ่มปั้นโปรเจ็กต์ลับ

112 เบรก ‘ทักษิณ’ ชะงัก ‘เศรษฐา’ ซุ่มปั้นโปรเจ็กต์ลับ

อนาคตของเศรษฐาจะเป็นอย่างไรนั้นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือการสร้างผลงาน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชน เป็นโจทย์ใหญ่ที่คนไทยเฝ้าดูอยู่    

Key Points

  • เมื่อทักษิณ ชินวัตร ติดคดี ม.112 การขยับในหมากการเมืองเลยชะงักไปโดยปริยาย 
  • เศรษฐา ทวีสิน ที่ยังต้องอาศัยมือไม้ ที่อยู่รายล้อม คอยจัดการช่วยเหลือ ถากถางเส้นทาง กรณี บิ๊กโจ๊ก ก็เช่นกัน เมื่อได้บิ๊กเนมช่วยเคลียร์ จนยอมถอนเรื่องใน ป.ป.ช.
  • นโยบายสำคัญของรัฐบาลดูจะนิ่งไปนาน แต่การเดินหน้าเปิดกาสิโน เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ตั้งเป้าปักหมุด 5 แห่งในประเทศ 
  • การเดินสายเมืองนอกถี่ยิบของเศรษฐา เริ่มถูกมองว่าเพื่อปูทางรองรับทางธุรกิจในวันที่ลงจากอำนาจหรือไม่  

ในช่วงที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดบ่วงคดี ม.112 ที่ยังต้องลุ้นว่าวันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะไปพบอัยการเพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่

จังหวะที่ผู้มากบารมีของรัฐบาลมีเหตุให้ต้องอยู่นิ่งก็อาจส่งผลต่อความเป็นไปในหลายมิติที่เกี่ยวข้องความฮึกเหิมของรัฐมนตรีสายตรง หรือบรรดาองคาพยพ คงต้องลดดีกรีลงไม่มากก็น้อย

การขับเคลื่อนโครงการ อาจจะต้องรอบคอบ รัดกุมขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่เป็นใจ การระมัดระวังไม่ให้ก้าวพลาดน่าจะดีที่สุด

เมื่อทักษิณ ยังต้องวุ่นอยู่การแก้เงื่อนปมที่พันแข้งพันขา ตัวของนายกฯ ก็อาจเป็นอีกคนที่ต้องลุ้นว่าเอฟเฟ็กต์จากเรื่องของคนอื่น จะส่งอิทธิพลแกมบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำหรือไม่

เศรษฐาเองก็มีเงื่อนปมให้แก้ด้วยเช่นเดียวกัน กรณี 40 สว. ยื่นสอยให้พ้นตำแหน่ง จากการแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงเจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจ แต่เอาเข้าจริง เรื่องนี้ก็คาบลูกคาบดอก ออกหน้าไหนได้หมด

ประเด็นสำคัญ เศรษฐาที่ต้องพึ่งพาใครบางคนที่อยู่รายรอบ คอยช่วยเหลือ เพราะถ้าเศรษฐา ยังอยู่ในอำนาจ คนเหล่านั้นที่เป็นตัวเดินงาน ก็ได้ประโยชน์ตามไปด้วย

เกมของนายใหญ่ในเวลานี้ โฟกัสอาจไม่ใช่การเปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะสถานการณ์จะยิ่งยุ่งยากสำหรับตัวเอง การจะดันอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาในจังหวะเวลาแบบนี้ ก็เหมือนขึงพืดลูกสาวไปเป็นตัวประกัน คนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่ยอมแน่

การประคองตัวเพื่อยืดเวลาออกไป ดูจะเข้าทางเศรษฐา ให้ได้อยู่ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ต่อค่อนข้างนิ่ง เว้นแต่มีอุบัติเหตุทางการเมืองที่ไม่คาดฝัน จากคดีความต่างๆ

ถึงแม้ผู้มีบารมีตัวจริงเสียงจริง จะมีเหตุให้ต้องชะงักไปชั่วขณะ จนส่งผลกระทบไม่มากก็น้อยต่อการบริหารจัดการงานเบื้องหลังหลายๆ อย่าง

บางเรื่องเศรษฐา ก็ได้อานิสงส์ เช่น กรณี บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์ หักพาล ถอนเรื่องที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.157 จากการแต่งตั้ง บิ๊กต่อ ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร.

ว่ากันว่า มีการล็อบบี้ผ่านบิ๊กเนมคนหนึ่ง ประสานมายัง V1 ให้คอยเคลียร์ปัญหา จนบิ๊กโจ๊กตอบรับในเงื่อนไขที่ค่อนข้างบวก และดูเหมือนการต่อสู้เพื่อเส้นทางการรับราชการก็มีแนวโน้มสดใส องค์ประกอบหลายอย่างดูจะค่อยๆ เข้าทาง

การเมืองที่กำลังวุ่น ทำให้สังคมลืมนโยบายสำคัญของรัฐบาลไปไม่น้อย ดิจิทัลวอลเล็ต ซอฟต์พาวเวอร์ และแลนด์บริดจ์ ที่ดูค่อนข้างอืด แต่อีกหนึ่งนโยบายเมกะโปรเจ็กต์ อย่างการปั้นสถานบันเทิงครบวงจร หรือกาสิโน ก็เริ่มเห็นเค้าโครงมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้มีแนวคิดปักหมุด 5 พิกัด ที่จะก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงกาสิโน ได้แก่ กทม. 2แห่ง 1.พื้นที่ท่าเรือคลองเตย ที่เตรียมย้ายออก 2.มีการคาดกันว่าจะใช้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือคลองเตย หรืออีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา 3.พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 4.จ.เชียงใหม่ และ 5.จ.ภูเก็ต ซึ่งล้วนมีบุคคลใกล้ชิดคนในรัฐบาลหมายตาไว้ทั้งสิ้น

ท่ามกลางข้อสังเกต การเดินสายทัวร์ต่างประเทศของเศรษฐา แบบถี่ยิบตั้งแต่เป็นนายกฯ นอกจากจะเชื้อเชิญต่างชาติขนเงินมาลงทุนในประเทศไทยแล้ว อาจมีผลพลอยได้ในเรื่องคอนเน็กชั่น ความเชื่อมั่นที่สามารถต่อยอดในทางธุรกิจวันข้างหน้าเมื่อต้องลงจากหลังเสือหรือไม่

อนาคตของเศรษฐาจะเป็นอย่างไรนั้นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือการสร้างผลงาน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชน เป็นโจทย์ใหญ่ที่คนไทยเฝ้าดูอยู่