‘เศรษฐา’ ชี้ ‘ทักษิณ’ โดนฟ้อง ‘ม.112’ ต้องไปแจง ขอให้ถูกต้องตามกระบวนการ
“เศรษฐา” เผย ยังไม่ได้โทร “ทักษิณ” หลังติดโควิด ชี้ “อสส.” สั่งฟ้องผิด “ม.112” จำเลยต้องไปชี้แจงตามกระบวนการ โยน ถามคนใน พท. กระทบความรู้สึกหรือไม่ เชื่อ ไม่กระทบภาพลักษณ์รัฐบาล เหตุเป็นคดีตัวบุคคล อาจกระทบ “อุ๊งอิ๊ง” แจง รัฐบาล-พรรค-ทักษิณ แยกกันัดเจน
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลเนื่องจากติดโควิด และขอเลื่อนนัดอัยการสูงสุด (อสส.) ที่สั่งฟ้องคดี ม.112 ว่า ยังไม่ได้โทรไปถามเรื่องอาการป่วย เนื่องจากมีภารกิจแน่นทั้งวัน ส่วนการที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี ตนพูดมาตลอดว่าแม้แต่คดีของตนเองที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็ให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรายละเอียดตนไม่อยากพูดอะไรมาก ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม ขณะที่คดีของนายทักษิณ ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็เป็นฝ่ายจำเลยที่จะต้องไปชี้แจง ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบต่อความรู้สึกของพรรคคนในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องไปสอบถามคนในพรรคเพื่อไทย แต่ตนมีหน้าที่ต้องทำงานต่อไป
เมื่อถามว่า ที่เคยระบุจะลงพื้นที่กับนายทักษิณ จะต้องชะลอไปก่อนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ไม่สามารถกำหนดได้ จะเป็นปีหรือ 2 ปีตนก็ยังไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นายทักษิณออกมา และตั้งแต่ตนเป็นนายกฯ ก็ยังไม่เคยพูดคุยว่าจะลงพื้นที่พร้อมกัน เพราะตนก็ไม่ทราบว่า นายทักษิณ มีความประสงค์แบบนั้นหรือไม่ อยู่ดีๆจะไปพูดเองว่าท่านอยากลงพื้นที่ด้วยก็ไม่ถูก และตั้งแต่มาเป็นนายกฯไม่เคยพูดคุยกับนายทักษิณเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างที่จะแยกกันยาก การถูกสั่งฟ้องคดี ม.112 จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าไม่กระทบ เพราะเป็นคดีบุคคล แต่หากถามว่ากระทบกับพรรคเพื่อไทยในแง่ของบุคคล อาจจะกระทบกับหัวหน้าพรรคไทย เรื่องนี้ต้องไปถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เอง แต่ในแง่ของรัฐบาล พรรคการเมือง และนายทักษิณแยกกันชัดเจน