'สุทิน'มอบสัญญาเช่าที่ดิน ทร.ให้ประชาชน เชื่อนโยบายโดนใจ
“สุทิน”มอบสัญญาเช่าที่ดิน ทร. ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ เชื่อนโยบายโดนใจ ยันไม่เอื้อเอกชนทำสนามกอล์ฟ- คาสิโน ตั้งใจให้สำเร็จ 7.2 หมื่นไร่เฉลิมพระเกียรติฯ
วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในกิจกรรมมอบสัญญาเช่าที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ที่สนามกีฬากลางเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะประธานคณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ
นายสุทิน กล่าวว่า ที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินที่มีมูลค่า เป็นที่สวย เคยมีเศรษฐีมาขอเช่าทำสนามกอล์ฟ อยากทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เอาไปทำคาสิโน ถ้ากองทัพอนุญาติ และกรมธนารักษ์ให้เช่าก็จะได้เงินเยอะ ไม่ต้องปวดหัวไปไล่เก็บค่าเช่าจากชาวบ้านแบบเบี้ยหัวแตก ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คิดแต่เรื่องเงิน คิดเพียงง่ายๆ ไล่ชาวบ้านออกเพื่อให้ เอกชนเช่าหาตังค์ ก็คงทำไปแล้ว แต่รัฐบาลเห็นด้วยกับกองทัพเรือรวมถึงธนารักษ์เห็นว่าประชาชนต้องมีสิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ทำมาหากิน จึงมีโครงการนี้ขึ้นมา
เราจึงดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมายไม่ให้ชาวบ้านเป็นผู้บุกรุก สามารถใช้เอกสารสิทธิ์การเช่าเป็นหลักทรัพย์ในการไปค้ำประกันได้ และในอนาคต ถ้ารัฐบาลมีการปรับนโยบายเรื่องที่ดิน ก็มีโอกาสสูงถอนสภาพจากที่ราชพัสดุเป็นที่เอกชนได้ ถ้านโยบายนี้สำเร็จ ผู้เช่ารายเก่าก็ได้ความมั่นใจกว่าเดิม ในการยกฐานะเพิ่มศักยภาพในการทำมาหากิน อย่างไรก็ตาม เรื่องสิทธิ์ในที่ดินมีเรื่องกฎหมายเป็นกรอบในการปฏิบัติอยู่ ใครทำผิดก็ติดคุกได้ เราจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมพัฒนาแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ตรงไหนเดือดร้อนก็ให้หน่วยงานในพื้นที่เสนอมาที่กองทัพ เช่น ถนน ระบบประปา ระบบป้องกันน้ำเสีย เพื่อทำให้อาชีพเรามีความมั่นคงและมีรายได้มากกว่าเดิม นายกฯก็จะดึงงบฯออกมาจัดสรรให้กองทัพดำเนินการต่อไป
นายสุทิน กล่าวว่า จากนี้เป็นการสำรวจเรื่อง โครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มศักยภาพ ที่ดินที่ให้เช่าแล้ว โดยท้องถิ่นจะเป็นคนพิจารณาว่าโครงการดังกล่าวมีอยู่หรือไม่ ถ้ามีทางท้องถิ่นก็จะมามอบให้กองทัพเป็นคนทำโดยจะมีการจัดทหารช่างและทหารพัฒนาเข้ามา โครงการที่ทำนี้เป็นระยะแรกยังไม่ครบตามที่ตั้งเป้าเหลือภาคตะวันออกและภาคใต้ซึ่งในภาคใต้ไม่ค่อยมีพื้นที่ และในส่วนทอ. จะเป็นเฟสต่อไป 1พันกว่าที่จ. นครพนม โดยปีหน้าเราจะ ดำเนินการให้แล้วเสร็จในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ตั้งใจมอบอย่างน้อย 72,000 ไร่ ซึ่งพื้นที่มีแล้วแต่ต้องผ่านกระบวนการ6ขั้นตอน
“แนวคิดของเราคือให้ประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่ให้เอกชน เพราะมีเอกชนหลายแห่งที่ขอมาเช่า ผมก็ตอบว่าเราให้ประชาชน ไม่ได้ให้เอกชน แต่ถ้าในอนาคตข้างหน้าประชาชนเพียงพอแล้วที่ดินยังเหลือ ก็อาจจะพิจารณาให้เอกชนแต่เอกชนต้องลงทุนแล้วเอื้อให้กับชาวบ้านทำมาหากินได้ เช่นมาลงทุนทำแหล่งน้ำ ทำผืนป่า ส่วนแนวคิดในการเปลี่ยนสถานะของเอกสารสิทธิ์ให้มีมูลค่ามากขึ้นนั้นยังอีกไกล ในกรณีที่อนาคตมีนโยบายอยากจะเพิ่มหรือถอนสภาพที่สาธารณะมาแจกจ่ายประชาชนเป็นเรื่องในอนาคตว่าถ้ามีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองคิดแบบนั้น คนที่ถือสิทธิ์อยู่วันนี้ก็จะได้เปรียบได้รับการพิจารณาก่อน
เมื่อถามว่า แนวคิด ให้เช่าที่ทหาร คิดว่าโดนใจประชาชนหรือไม่เพราะไม่ใช่เป็นการให้เอกสารสิทธิ์ นายสุทิน ยอมรับว่า ก็ไม่ได้ให้เอกสารสิทธิ์จริง ซึ่งตอนเราเขียนนโยบายก็ไม่ได้บอกว่าจะให้เอกสารสิทธิ์จริง ทั้งนี้การให้เอกสารสิทธิ์เป็นนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ส่วนกลาโหม ให้นำที่ดินทหารไปให้ประชาชนทำกิน ดังนั้นคนที่พูดแบบนั้นก็ต้องตอบเขาไปว่าให้แยกแยะ แต่ถามว่าโดนใจหรือไม่ก็ต้องบอกว่าโดน เพราะจากชาวบ้านที่ถูกตราหน้าว่าป็นผู้บุกรุกถูกขับไล่ เมื่อจัดระบบ เขาก็เป็นผู้เช่าถูกต้องตามกฏหมาย มีความมั่นคงมากขึ้น
สำหรับการจัดสรรที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือให้ประชาชน ทางผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการให้คณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดินของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์รองรับนโยบายรัฐบาลด้วยการนำพื้นที่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ เนื้อที่ประมาณ 3,918 ไร่ มาดำเนินโครงการ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประชุมทำความเข้าใจ , การตรวจสอบ รังวัด จัดทำแผนที่ , การสอบสวนสิทธิการครอบครอง , การรับคำร้องของผู้เช่าที่ราชพัสดุ , การพิจารณาจัดให้เช่าที่ราชพัสดุ และการกิจกรรมมอบสัญญาเช่า ที่จัดให้มีขึ้นในวันนี้
โดยกองทัพเรือเห็นชอบให้ราษฎรต่อสัญญาเช่า และเช่าที่ราชพัสดุเพิ่มเติม ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.1193 ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่รวม 3,918 ไร่ รวม 311 แปลง จำนวน 191 ราย แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 166 แปลง และเพื่อทำการเกษตร จำนวน 145 แปลง
ระหว่างการดำเนินโครงการ กองทัพเรือได้จัดกำลังพลของป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนราษฎรผู้เช่าที่ดินราชพัสดุพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า และรวบรวมข้อมูลราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านแหลมสิงห์ โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้อนุมัติให้ดำเนินการโครงการติดตั้งโกงกางเทียมในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า และปัจจุบันได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ช่วยป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลในพื้นที่ดังกล่าว และก่อสร้างถนนคู่ขนาน ยกระดับเข้าออกหมู่บ้านกองดินขนาดกว้าง 1.4 เมตร สูง 1 เมตร ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรในช่วงน้ำท่วมถนน อันเนื่องมาจากน้ำทะเลหนุน
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 รองผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมกับคณะสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมและพูดคุยกับราษฎรผู้เช่าที่ดินราชพัสดุพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า บริเวณหมู่ 2 (หมู่บ้านกองดิน) ที่ได้รับความเดือดร้อน และได้ประสานกองบัญชาการกองทัพไทย ขอให้หน่วยทหารพัฒนาบรรจุโครงการสร้างทางสัญจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้นแล้ว