'แสวง' เผยเลือก ส.ว.ระดับอำเภอ ราบรื่น-จ่อประกาศผลภายใน 3 วัน
'แสวง' เผยเลือก ส.ว.ระดับอำเภอ ราบรื่น-จ่อประกาศผลภายใน 3 วัน บอกผู้สมัครร้องศาลฎีกาได้ หากมองว่ากระบวนการเลือกไม่ชอบกฎหมาย แจงปมลือฮั้วเขตปทุมวัน ต้องตรวจสอบทางลับ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงสรุปภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระดับอำเภอทั่วประเทศว่า ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้สมัคร 46,000 คน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการเลือกครั้งนี้ทั้ง 978 ที่เลือกตั้ง รวมถึงเจ้าพนักงานคณะกรรมการระดับอำเภอ ที่ช่วยเหลือการปฎิบัติงานผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอ บุคลากร 167,000 คน สื่อมวลชน และผู้สังเกตการณ์ ที่ได้ซักซ้อมการเลือก ส.ว.ระดับอำเภอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายแสวง กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์ในภาพรวม ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง อาทิ ผู้สมัครมารายงานไม่ทันตามกำหนดเวลา 09.00 น. มีจำนวนหนึ่งแต่ไม่มากนัก และมีกรณีที่ จ.นนทบุรี ผู้สมัครนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นหูฟังเข้าไปในที่เลือก ซึ่งได้ตรวจสอบเจอและเก็บเพื่อนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครที่ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เจ็บป่วยกระทันหัน จึงเสียสิทธิ์ในการเลือกและการลงคะแนน ซึ่งผู้สมัครก็เข้าใจ
นายแสวง กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนต่อไป เมื่อสถานที่แห่งใดเลือกเสร็จแล้ว จะมีการประกาศผลคะแนนหน้าสถานที่เลือก โดยผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของแต่ละกลุ่ม จะได้เข้าไปเลือกในระดับจังหวัดต่อไป ซึ่งในวันที่ 10 มิถุนายน ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ จะส่งบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด และติดประกาศเผยแพร่ ณ ที่ทำการอำเภอ และในเว็บไซต์ของ กกต. รวมถึงแอพลิเคชั่น smart vote ภายใน 3 วัน
นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ผู้สมัครเห็นว่าการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกในวันนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ขอให้ใช้สิทธิ์ร้องคัดค้านที่ศาลฎีกาภายใน 3 วันหลังจากนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสังเกตในการเลือก สว.ระดับเขต ที่เขตปทุมวัน มีการลงคะแนนเลือกกันเองโดยไม่ใส่คะแนนให้ตนเอง และเลือกให้คนอื่นแบบเป็นกลุ่มก้อนนั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า จะต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ก็จะต้องพิจารณาข้อสังเกต ข้อสันนิษฐานด้วยว่า มีการฮั้ว และมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจริงหรือ เหมือนผู้ที่ใส่เสื้อสีเดียวกันที่ไม่ผิด แต่ก็สามารถสันนิษฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไปได้ เพราะหากผู้สมัคร เห็นว่าคนอื่นดีกว่าตนเอง ก็สามารถลงคะแนนให้คนอื่นได้ ซึ่งในการตรวจสอบ จะต้องมีการตรวจสอบทางลับก่อน
“หากมีมูลปรากฏ กกต.ก็จะดำเนินการต่อไป เช่นเดียวกับกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตกลุ่มฮั้วครองเมืองนั้น ก็เป็นข้อสันนิษฐาน แต่จะต้องพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวเข้า มีข้อเท็จจริงที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่”นายแสวง กล่าว
เมื่อถามว่า รางวัลชี้เบาะแสการทุจริตการเลือก สว.จำนวน 1,000,000 บาท นั้น นายแสวง กล่าวว่า จะสามารถจ่ายได้ ก็ต่อเมื่อศาล มีการพิพากษาว่า เบาะแสที่แจ้งมานั้น มีความผิดจริง ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.