เดิมพัน 'เจ้าพ่อปากน้ำ' นำทัพ 'ม้าทองคำ' ฝ่าพายุสีส้ม
เดิมพันเจ้าพ่อปากน้ำ “วัฒนา” เชิดเลือดแท้ม้าทองคำ “สุนทร ปานแสงทอง” รั้งแม่ทัพใหญ่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า แทนเอ๋ ชนม์สวัสดิ์
สมรภูมิ สส.พ่ายพายุสีส้มเรียบ เจ้าพ่อปากน้ำ ยังหวังยึด “อบจ.สมุทรปราการ” เป็นที่มั่นสุดท้ายของตระกูล “อัศวเหม” หากแพ้ส้มซ้ำก็ปิดฉาก
สถานการณ์การเมืองภายในกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ของตระกูลอัศวเหมมีความอึมครึมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ระหว่าง “ทีมพ่อบ้านม้าทองคำ” ที่คุมสภา อบจ.สมุทรปราการ กับ “ทีมสะใภ้ม้าทองคำ” ที่บริหารนายก อบจ.สมุทรปราการ
ในที่สุด “วัฒนา อัศวเหม” ประมุขบ้านม้าทองคำ ได้นัดทีมนักการเมืองเลือดแท้นำโดย สุนทร ปานทองแสง อดีต รมช.เกษตรฯ ,
- อัครวัฒน์ อัศวเหม อดีต สส.สมุทรปราการ,
- วรพร อัศวเหม อดีตประธานสภาเทศบาลเมืองบางปู ,
- สมควร ชูไสว ประธานสภา อบจ.สมุทรปราการ
- ชนะ หงวนงามศรี รองประธาน สภา อบจ.
เดินทางไปพบที่บ้านพักในประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2567 สจ.ชนะ หงวนงามศรี ได้โพสต์ภาพการเข้าพบวัฒนา และเผยแพร่คลิปเจ้าพ่อปากน้ำ ที่แจ้งให้ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงทราบว่า สุนทร ปานแสงทอง จะเป็นผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
วัฒนายังบอกย้ำว่า เขาจะเข้าไปดูแลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ และผลักดันให้สุนทรประสบความสำเร็จ
ก่อนที่สุนทร จะยกทีมไปพบวัฒนา ได้จัดงานใหญ่เชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองคือ การทำบุญขึ้นบ้านใหม่ “ปานแสงทอง” ที่หมู่ 9 ชุมชนบ้านไม้ท้ายซอย ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2567
นี่คือการรวมพลคนบ้านม้าทองคำสายตรงเจ้าพ่อปากน้ำ ส่งสัญญาณพร้อมรบในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นปลายปีนี้
บ้านใหญ่บางโฉลง
นับจากนี้ไป ก็เป็นที่รู้กันในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นสายบ้านใหญ่ปากน้ำว่า บ้านใหญ่บางโฉลง คือศูนย์รวมใจของกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า
วันที่ 10 พ.ค.2567 สุนทร ปานแสงทอง และ อัครวัฒน์ อัศวเหม เป็นตัวแทนในการประกอบพิธีถอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่บ้านขาว ริมน้ำเจ้าพระยา ถนนท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
โดยมีเจ้าคุณเมธี วัดชนะสงคราม และเจ้าคุณเทพ เจ้าอาวาสวัดพลับพลาไชย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพราหมณ์ เป็นผู้ประกอบพิธีถอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันที่ 30 พ.ค. 2567 สุนทร ปานแสงทอง ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยในวันดังกล่าว วัฒนา อัศวเหม ได้โฟนอินเข้ามาอวยพรให้เจ้าของบ้าน และทักทายนักการเมืองท้องถิ่นในเครือข่ายบ้านใหญ่ม้าทองคำ
พ่อบ้านม้าทองคำ
คนบ้านใหญ่ทราบดีว่า สุนทร ปานแสงทอง เคยเป็นผู้ช่วย สส.ประจำตัว วัฒนา อัศวเหม มานานกว่า 40 ปี และเปรียบเสมือนพ่อบ้านม้าทองคำ
ช่วงรุ่งเรืองของเจ้าพ่อปากน้ำ วัฒนามีมือขวาผู้ช่ำชองกลยุทธ์การเมืองชื่อ มั่น พัธโนทัย ลูกชาย สังข์ พัธโนทัย อดีตคนสนิทจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่เปรียบเหมือนครูการเมืองของเจ้าพ่อปากน้ำ
มั่น พัธโนทัย เป็น สส.สมุทรปราการ อยู่หลายสมัย และในช่วงหลัง มั่นได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไอซีที ในรัฐบาลสมัคร รวมถึงเป็น รมช.คลัง รัฐบาลอภิสิทธิ์
หลังจากมั่นวางมือการเมือง เพราะปัญหาสุขภาพ วัฒนาก็มอบความไว้วางใจใจให้สุนทร ปานแสงทอง คั่วเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลประยุทธ์
การเลือกตั้ง สส.สมุทรปราการ ปีที่แล้ว ตระกูลอัศวเหม ไม่มีเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ก็ได้สุนทรรับบทแม่ทัพใหญ่ เป็นตัวเชื่อมระหว่างวัฒนากับทีมผู้สมัคร สส.สายบ้านใหญ่ แต่ก็พ่ายพายุสีส้มแบบไม่มีลุ้น
รอยร้าวทีมสะใภ้-พ่อบ้าน
ปลายปีที่แล้ว เกิดความขัดแย้งระหว่าง ชนะ หงวนงามศรี รองประธาน สภา อบจ.สมุทรปราการ กับฝ่ายบริหาร นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ แต่ภายหลัง ได้มีการทำความเข้าใจกันแล้ว
สำหรับ สจ.ชนะ หรือ ชนะ หงวนงามศรี ส.อบจ.สมุทรปราการ เขต อ.เมืองสมุทรปราการ เป็นคนเก่าแก่ของกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า
สมัยที่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ยังมีชีวิตอยู่ ได้แยกฝ่ายบริหารและฝ่ายสภาท้องถิ่นออกจากกัน โดย สมควร ชูไสว ประธานสภา อบจ.สมุทรปราการ และ ชนะ หงวนงามศรี รองประธานสภา คอยคุมเกมสภาฯ
ทั้ง สจ.สมควร และ สจ.ชนะ มีความสนิทสนมกับ สุนทร ปานแสงทอง ถือว่าเป็นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งของอัศวเหม รุ่น 2 และรุ่น 3
ส่วน นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ รับผิดชอบงานฝ่ายบริหาร และมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเป็นทีมรองนายก อบจ. และเลขานุการ อบจ.
มีข้อน่าสังเกตนับแต่ต้นปี 2567 นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ ได้แยกตัวออกมาทำกิจกรรมร่วมกับ ชนม์ทิดา อัศวเหม ประธานเครือข่าย ทสม. และประภาพร อัศวเหม นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ
คนปากน้ำรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นทีมสะใภ้ “นันทิดา-ประภาพร” แพ็กคู่ออกงานสังคม ราวกับจะปั้นลูกสาว น้องเพลง-ชนม์ทิดา ลงการเมืองท้องถิ่น
ขณะที่ สุนทร ปานแสงทอง ก็จะออกงานสังคม ร่วมกับทีมอัครวัฒน์-วรพร ซึ่งเป็นหลานชายของวัฒนา และทีมสภา อบจ.ปากน้ำ
ขาลงเจ้าพ่อปากน้ำ
ผลการเลือกตั้ง สส.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อพรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะ ทั้ง สส.เขต 8 ที่นั่ง และคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ได้ 447,751 คะแนน
ส่วนอดีต สส.และผู้สมัคร สส.กลุ่มบ้านใหญ่ สอบตกหมด รวมถึงคะแนนบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้แค่ 24,746 คะแนน
พูดง่ายๆ แบรนด์ลุงป้อมขายไม่ได้ แถมแบรนด์บ้านใหญ่ม้าทองคำ ที่วาดหวังจะได้ สส.เขต ก็ขายไม่ออก
อัศวเหมรุ่น 2 อย่าง อัครวัฒน์ อัศวเหม และวรพร อัศวเหม มีความชัดเจนว่ายืนอยู่ข้าง สุนทร ปานแสงทอง และยังสังกัดพรรคพลังประชารัฐ
ส่วน อัศวเหมรุ่น 3 พิม อัศวเหม ลูกสาวประภาพร อัศวเหม ทิ้งพลังประชารัฐแล้ว โดยตัวเธอยังลงพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ อย่างต่อเนื่อง
การประกาศหวนคืนสมรภูมิการเมืองท้องถิ่นสมุทรปราการ ของ วัฒนา อัศวเหม ก็ไม่ง่ายเหมือนในอดีต เพราะภูมิทัศน์การเมืองปากน้ำเปลี่ยนไปมาก
ช่วงปี 2544 จนถึงปี 2554 บ้านใหญ่ม้าทองคำ พ่ายกระแสทักษิณ ไม่มีที่ยืนในสภาฯ แต่การเมืองท้องถิ่น บ้านใหญ่ก็ยังยึดสนามเทศบาลนครสมุทรปรา การ และ อบจ.สมุทรปราการ ไว้ได้
ปัจจุบัน สถานการณ์บ้านใหญ่กำลังอยู่ในช่วงขาลง พรรคก้าวไกลกลายเป็นขวัญใจคนปากน้ำแทนพรรคเพื่อไทย สีส้มได้เข้ามาแทนสีแดงเมื่อเลือกตั้งปีที่แล้ว
ดังนั้น การเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ ต้นปีหน้าน่าจะเป็นเดิมพันสุดท้ายของตระกูลอัศวเหม หากสุนทร ปานแสงทอง ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ก็น่าจะเป็นการปิดฉากบ้านใหญ่ม้าทองคำ ในเวทีการเมืองปากน้ำ