กกต.ยันใช้ ม.92 พ.ร.ป.พรรคฯยื่นยุบก้าวไกล ปัดตอบควรมียุบพรรคหรือไม่
กกต.ตั้งโต๊ะแถลงยันปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ ปมยื่นคำร้อง ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ ใช้ช่อง ม.92 ปรากฎหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ไม่ใช่ ม.93 ที่ความปรากฎต่อนายทะเบียน เผยตอบไม่ได้ควรมีการยุบพรรคหรือไม่ เพราะต้องเคารพกฎหมาย รอวันไหนแก้กฎหมายแล้ว แค่คิดยังไม่กล้า
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง ดร.ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พบปะพูดคุยกับสื่อมวลชน แถลงถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ กกต.ส่งบัญชีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในคดียื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล
โดยนายปกรณ์ กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจถึงเหตุผลต่อการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับลงวันที่ 31 ม.ค. 2567 ได้ระบุชัดเจนว่า การกระทำของผู้ถูกร้อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำวินิจฉัยนี้ทำให้ กกต.ไม่อาจจะทำอย่างอื่นได้ เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 (1) (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ถือว่า กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ถ้าขนาดที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ใช่หลักฐานอันควรเชื่อถือได้ กกต.คงตอบกลับสังคมยาก
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เหตุที่ต้องยื่น เพราะคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันกับ กกต.และมีผู้มาร้องเรียนในเรื่องนี้ กกต.จำเป็นต้องยื่นคำร้องดังกล่าว เพราะถ้า กกต.ไม่ยื่นอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ โดยการยื่นคำร้องของ กกต.ครั้งนี้ เป็นการยื่นตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จึงไม่มีเหตุให้ต้องไต่สวน เพียงแต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า เท่านั้น กกต.ต้องปฏิบัติตาม ถามว่ากรณีนี้เคยมีเรื่องอื่นหรือไม่ ขอตอบว่า กกต.ได้ปฏิบัติลักษณะเดียวกันกับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรับคำร้องไว้พิจารณาในลักษณะเดียวกัน
นายปกรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำความเข้าใจกับสื่อ และประชาชนตามที่หลายฝ่ายกล่าวอ้างว่าทำไม กกต.ไม่แจ้งข้อกล่าวหา คือระเบียบการไต่สวนของ กกต. มี 2 ฉบับ ฉบับแรกใช้ทั่วไปตามฉบับปี 2561 กรณีที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 93 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เป็นเรื่องที่ปรากฎต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า มีการกระทำดังกล่าว นายทะเบียนจึงรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน พร้อมความเห็นเสนอต่อ กกต. ระเบียบดังกล่าว ใช้เฉพาะกรณีมาตรา 93 การออกระเบียบนี้อาศัยตามมาตรา 93 ระบุไว้ชัด ไม่เกี่ยวกับมาตรา 92 ที่ความปรากฎต่อนายทะเบียน นายทะเบียนจะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต. การดำเนินการตามมาตรา 93 ของนายทะเบียนจะแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง นี่คือความแตกต่างกันระหว่างมาตรา 92 และมาตรา 93 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
“นี่คือสิ่งสำคัญที่อยากจะทำความเข้าใจ กับประชาชน และสื่อมวลชน เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่าง มีคำถามมากเหลือเกินที่เข้ามาว่า เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ กกต.พุดคุยกันมาก และตอบได้อย่างเดียวว่า กกต.ไม่สามารถตอบได้ กกต.เป็นผู้ปฏิบัติ ต้องเคารพตามกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมาย จะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ไม่ได้ แต่เมื่อใดมีผู้ไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย และแก้กฎหมาย เช่น ไม่มีการบัญญัติในเรื่องยุบพรรคการเมือง เมื่อนั้น กกต.แม้แต่จะคิดก็ยังไม่กล้า นี่คือสิ่งที่เราทำตามกฎหมาย และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง บางครั้งอาจจะเกิดความเข้าใจสับสนบ้าง แต่สิ่งที่เราอยากแถลงให้สื่อทราบ ให้ประชาชนทราบ ก็คือเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ผลจะเป็นประการใด เราเคารพ และรับฟังปฏิบัติตามดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญเต็มที่” นายปกรณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะส่งคลิปการให้สัมภาษณ์ของประธาน กกต.ที่ยอมรับว่าดำเนินการข้ามขั้นตอน จะต่อสู้ประเด็นนี้อย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า สิ่งนี้ต้องดูภาพรวมทั้งหมดของคำให้สัมภาษณ์และแถลง ไม่ใช่ตัดเฉพาะบางส่วนออกมา นี่ก็ฝากสื่อมวลชนด้วย
ถามย้ำว่า คำให้สัมภาษณ์ของประธาน กกต.ยืนยันว่าดำเนินการตามกฎหมายใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ทำตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ทุกประการ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่ากรณีของพรรคก้าวไกล กับ ทษช.ไม่เหมือนกัน เพราะตอน ทษช.ยังไม่มีระเบียบใหม่ที่ กกต.รองรับนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้อยู่ที่ศาลแล้ว เราเป็นผู้กรณี ไม่อาจมีความเห็นอย่างไรได้เลย เราเคารพศาลอย่างยิ่ง
ส่วนบัญชีพยานหลักฐานที่จะยื่นในคำสั่งศาล มีรายละเอียดอะไรบ้าง นายปกรณ์ กล่าวว่า เราได้ทราบคร่าว ๆ แต่รอติดต่อแล้ว ขอหนังสือที่ชัดเจนว่า จะระบุอย่างไร แล้วเราจะรีบปฏิบัติตามคำสั่งศาล แต่วันนี้ยังไม่เห็นหนังสือ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลชี้แจงแนวทางต่อสู้คดี ระบุว่าเรื่องนี้ควบรวมมาตรา 93 ด้วย นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นความเห็นของคู่กรณี ส่วนในชั้นของ กกต.เป็นเรื่องมาตรา 92 ที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานควรอันเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น จบแค่นี้ ส่วนมาตรา 93 เมื่อปรากฎต่อนายทะเบียนว่า พรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 ให้รวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เสนอความเห็นต่อ กกต. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดระบุไว้ชัดตามมาตรา 93
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ บัญชีพยานจะมี กกต. หรือประธาน กกต.เป็นพยานด้วย นายปกรณ์ กล่าวว่า อันนี้แล้วแต่ผู้ดำเนินการ ผู้ที่จะพิจารณา