เด็ก ภท. ค้าน ‘กัญชา’ คืนบัญชียาเสพติด ชี้ อย่าบ้าจี้ ออกกฎหมายคุมดีกว่า

เด็ก ภท. ค้าน ‘กัญชา’ คืนบัญชียาเสพติด ชี้ อย่าบ้าจี้ ออกกฎหมายคุมดีกว่า

“คารม” แนะ สธ. คิดให้ดี เอากัญชาคืนบัญชียาเสพติด ไม่ควรเอาใจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ชี้ สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ห่วงคนครอบครองถูกจับ ระบุ มีคนบ้าโจมตี จะชักกลับท่าเดียว แปลกมาก เร่งออกกฎหมายคุมดีกว่า

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำกัญชาคืนบัญชียาเสพติด ตนคิดว่าต้องคิดให้รอบคอบอย่างที่สุด ไม่ควรทำเรื่องนี้เพื่อเอาใจคนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ต้องคิดถึงประชาชนที่เขาไม่มีอำนาจต่อรองเหมือนคนบางกลุ่ม ไม่เช่นนั้น จะเกิดความเสียหาย และความเดือดร้อนต่อประชาชนหลายกลุ่ม ตนมองว่ากระทรวงสาธารณสุขทราบเรื่องนี้ดี

นายคารม กล่าวว่า แม้กัญชาจะเคยเป็นยาเสพติดประเภท 5  แต่เมื่อมีการศึกษาถึงผลดีผลเสียอย่างเป็นระบบแล้ว ทำให้รู้ว่ากัญชา ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น แต่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ภายหลังจากปลดล็อกกัญชา ออกจากยาเสพติดแล้ว ทำให้เกิดผู้ประกอบกิจการรายย่อยเกี่ยวกับธุรกิจกัญชา ใครๆ ก็รู้ว่าชาวบ้านทั่วไปได้ใช้กัญชารักษาโรค และใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหารมาเป็นเวลานาน หากนำเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประชาชนที่ครอบครองกัญชาจะต้องถูกจับ ถูกดำเนินคดี และเดือดร้อน ต้องหาเงินมาประกันตัวมาต่อสู้คดี 

นายคารม กล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม น่าจะบอกข้อมูลสถิติในทางคดีสำหรับชาวบ้านที่ครอบครองกัญชา และถูกจับ ตอนที่ยังไม่ปลดล็อกออกจากยาเสพติด ว่ามีจำนวนเท่าไร และเมื่อไม่ได้เป็นยาเสพติดแล้วสถิติคดี โดยรวมทั้งหมดลดลงเท่าไร เมื่อตัดคดีกระทำผิดเกี่ยวกับการครอบครองกัญชาออกไป

"กัญชายังไม่เคยมีการออกกฎหมายมาควบคุมการใช้อย่างจริงจัง ผลดี ผลเสีย ยังไม่มีการประเมิน แค่มีคนบ้าคนหนึ่งมาโจมตีกัญชาแบบเอาเป็นเอาตาย รัฐมนตรีตั้งท่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดท่าเดียว ผมว่าแปลกมาก" รองโฆษกรัฐบาล ระบุ 

นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก หากออกกฎหมายควบคุม ก็น่าจะใช้เวลาไม่นาน และน่าจะเป็นวิธีการที่ถูกต้องที่สุด เพราะกฎหมายฉบับนี้ ครอบคลุมการใช้ประโยชน์จากกัญชาทั้งหมด และใครใช้ได้หรือไม่ได้อย่างไร สมควรที่จะเร่งออกกฎหมายเพื่อมาบังคับใช้ จะทำให้มีการใช้ประโยชน์จากกัญชา ครอบคลุมทั้งมิติทางเศรษฐกิจ ทางการแพทย์ และไม่เพิ่มคดีความให้กับผู้ครอบครองกัญชาที่เป็นวิถีชาวบ้าน

"จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่สมควรที่จะเร่งออกกฎหมาย เพื่อมาควบคุมการใช้กัญชา จะดูเหมาะสมทั้งในทางเศรษฐกิจ ทางกฎหมาย ทางการแพทย์ แต่การที่ออกตัวมาก็ตั้งเป้าเลยว่าจะเอากัญชาไปเป็นยาเสพติด ผมว่าแปลกมาก" นายคารม กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์