'ชัยธวัช' หวังศาล รธน.เรียกพยานจาก 'ก้าวไกล' สู้คดียุบพรรค อุบตั้งพรรคสำรอง

'ชัยธวัช' หวังศาล รธน.เรียกพยานจาก 'ก้าวไกล' สู้คดียุบพรรค อุบตั้งพรรคสำรอง

'ชัยธวัช' ยังหวังศาล รธน.เรียกพยานจาก 'ก้าวไกล' ไต่สวนต่อสาธารณะคดียุบพรรค รอดูจะเรียกใครบ้าง เชื่อกว่าจะวินิจฉัยอย่างเร็วก็ ส.ค. อุบไต๋ตั้งพรรคสำรอง ย้ำยังไม่ถึงเวลา

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดียุบพรรคก้าวไกลที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า  วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีการข้อสรุปว่าจะมีการเปิดไต่สวนหรือไม่อย่างไร เพียงแต่หลังจากนี้ศาลจะส่งหนังสือไปถึงพยานบุคคล ไม่ทราบว่าศาลจะเลือกพยานท่านใดบ้าง เพื่อให้ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเป็นเอกสารภายใน 7 วันหลังได้รับหนังสือ

นายชัยธวัช กล่าวว่า หมายความว่าพยานบางส่วนศาลจะไม่เรียกมาไต่สวนในชั้นศาล แต่จะขอความเห็นเป็นเอกสาร และศาลนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นการนัดเพื่ออ่านคำวินิจฉัย ยังไม่ใช่ ศาลยังไม่ได้นัดอ่านคำวินิจฉัย แต่เป็นประชุมกันต่อว่ากระบวนการพิจารณาคดีนี้จะเป็นอย่างไรต่อ จะมีการไต่สวนหรือไม่อย่างไร เราก็คาดหวังว่าจะมีการไต่สวนเพราะว่าวันที่ 9 ก.ค.ได้มีการนัดคู่กรณีไปตรวจพยานหลักฐาน ดังนั้นหมายความว่าหากมีการนัดไต่สวน ก็คิดว่ากระบวนการกว่าจะมีการวินิจฉัยได้อย่างเร็วก็น่าจะเป็นเดือน ส.ค. 

เมื่อถามว่าการที่ศาลให้พยานส่งเอกสารเป็นเอกสารจะทำให้พรรคก้าวไกลเสียเปรียบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเลือกพยานท่านไหนบ้างที่จะให้ส่งความเห็นเป็นหนังสืออย่างเดียว เพราะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าพยานทั้งหมดที่เราเสนอไป 10 กว่านั้น ศาลจะเลือกขอความเห็นกี่คนศาลไม่ได้บอกว่าจะเลือกทั้งหมด อย่างไรก็ตามเราก็ยังหวังว่าพยานปากสำคัญจริงๆจะมีโอกาสได้ไปให้การต่อศาลในการไต่สวนสาธารณะซึ่งจะมีประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในการได้พิจารณาข้อต่อสู้ เหตุผลต่างๆ เกี่ยวกับคดีนี้ 

เมื่อถามว่าขั้นตอนต่อไปพรรคก้าวไกลจะทำอย่างไรต่อ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราก็ต้องเตรียมพร้อมเรื่องพยาน และรอฟังมติของศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. และวันที่ 9 ก.ค. ก็ไปตรวจพยานหลักฐานแค่นั้น ส่วนจะต้องมีการปรับอะไรหรือไม่ ก็ยังไม่ต้องมีการเปลี่ยนแผนอะไร ตอนนี้ก็เดินหน้าทำงานเหมือนเดิม  อย่างไรก็ตามในกระบวนการขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ เราจะไม่รู้จนกว่าพยานที่เราเสนอชื่อไป ได้แจ้งกับเราว่าได้รับหนังสือติดต่อจากศาลรัฐธรรมนูญ ดั้งนั้นหลังจากนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็จะประสานงานกับพยานทุกคนที่เราเสนอชื่อไปว่ามีใครบ้างที่ได้รับหนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าหลังจากที่มีการส่งความเห็นเป็นเอกสารไปแล้ว จะมีพยานคนไหนบ้างที่ศาลจะอนุญาตให้ไปให้การในชั้นไต่สวน 

เมื่อถามถึงกรณีการตั้งพรรคสำรอง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ตนคิดว่าเรายังต่อสู้อย่างเต็มที่ให้ถึงที่สุดก่อน ทั้งนี้เรายังสามารถยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ แต่เท่าที่ยื่นไปแล้วก็พอสมควรแล้ว จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าเรียกพยานท่านใดบ้าง และจะเรียกเป็นเอกสารเท่านั้น หรือเรียกบางท่านไปให้การในชั้นไต่สวน ซึ่งเราก็หวังว่าพยานสำคัญๆ จะมีโอกาสไปให้การต่อชั้นศาลในการไต่สวนสาธารณะ 

เมื่อถามว่ามติของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าพอใจต่อพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีอะไรมากสำหรับมติในวันนี้ เพียงแต่ศาลนัดกระบวนการขั้นต่อไปว่าต้องทำอะไร จึงไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนมีความกังวลอะไรหรือไม่นั้น เราไม่ได้วิตกอะไร เพราะคิดว่าเราต่อสู้ในแง่ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นกระบวนการปกติ ไม่ได้เป็นสัญญาณบวกหรือลบอะไร เพียงแต่ว่าในคดีที่แล้ว ไม่มีการที่จะเชิญพยานไปไต่สวนในชั้นศาล เพียงแต่ขอความเห็นเป็นเอกสารเท่านั้น ซึ่งเราเห็นว่าในคดีที่สำคัญและมีโทษถึงขนาดยุบพรรคและตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคการเปิดไต่สวนและเผยแพร่ต่อสาธารณะน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และทำให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้รับ เพราะพิจารณาเหตุและผลจากทุกฝ่ายทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องอย่างรอบด้านที่สุด 

เมื่อถามว่าท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้เป็นไปตามคาดหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างน้อยตนคิดว่ามันก็มีโอกาส จากเดิมที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาอะไรแล้ว คิดว่าข้อต่อสู้ของเราก็มีน้ำหนักที่ตนคิดว่ามีประเด็นที่ศาลต้องพิจารณา ดูจากการนัดไปตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 9 ก.ค. ก็มีโอกาสที่จะมีประเด็นที่จะต้องไต่สวน