'ชวน' กรีดปม 'เศรษฐา' ตั้ง 'พิชิต' รมต.เชื่อไม่อยากทำ แต่ยอมคนเหนือกว่าขอมา
‘ชวน’ กรีดฝากปม ‘เศรษฐา’ ถูกร้องจริยธรรมปมตั้ง ‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี เชื่อ ‘นายกฯ’ รู้-ไม่อยากตั้ง แต่ต้องยอม เหตุมีคนเหนือกว่าขอมา แซะงบฯ 68 แค่ผ่านวาระแรก แต่ขอบคุณเหมือนผ่านวาระ 3 อัด ‘ธุรกิจการเมือง’ ลามเหมือนโรคอุบัติใหม่ เกิดทุจริตคอร์รัปชั่น - ปชช.เบื่อหน่าย
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2567 เมื่อเวลา 14.10 น. ที่โรงแรมอัศวิน แกนรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กทม. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอนหนี่งในงาน “แนวหน้า TALK ครั้งที่1” หัวข้อ เมืองไทยวันนี้….มีอะไร ว่า ถ้าถามว่าเมืองไทยวันนี้มีอะไร ตนในฐานะที่ผ่านประสบการณ์การเมืองมามากมาย ในวันที่24มิ.ย.นี้ ที่จะครบ92ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราไม่ควรหวั่นไหว เราต้องทำให้ระบอบการปกครองนี้ราบรื่น เพราะเป็นระบบที่ให้สิทธิประชาชนมากที่สุด มีเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ ยึดหลักนิติธรรมในการปกครอง แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน เป็นหัวใจหลักไม่ว่าจะประเทศใด ถูกต้องถูก ผิดต้องผิด ถ้าเรายกเว้น เมืองไทยของเราไปไม่รอดแน่นอน
นายชวน กล่าวว่า ตนเคยอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรามนูญมาตรา 152 เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ถึงรัฐบาลปัจจุบัน ที่เลือกที่จะช่วยพวกตัวเอง มากกว่ายึดหลักนิติธรรม โดยเฉพาะการช่วยนักโทษ เราจึงไม่สามารถพูดได้ว่ารัฐบาลยึดหลักนิติธรรม เพราะทำให้หลักกฎหมายมีปัญหา และถ้าถามอีกว่าวันนี้เมืองไทยมีอะไร วันนี้ยังมีคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ที่มีมาตั้งแต่อดีต แม้เหตุการณ์จะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่คนที่รู้เรื่องเหล่านี้ดีที่สุด ต่างสูญเสียไปหมดแล้ว มีเพียงตนที่ยังรู้เรื่องนี้อยู่ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 7,594 คน เพิ่มขึ้นมา 20 คน จากเดิม 7,574 คน ที่ตนเคยอภิปรายถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ล่าสุด มันเกิดจากความผิดพลาดของนโยบาย 8 เม.ย. 2544 ของรัฐบาลในขณะนั้น ที่ใช้วิธีรุนแรงถึงชีวิตกับผู้เห็นต่าง สิ่งเหล่านี้คือการอยู่นอกหลักนิติธรรม นอกกติกา เรื่องแบบนี้ควรต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มาตัดสินเองแบบนอกกระบวนการ
นายชวน กล่าวอีกว่า วานนี้ (21มิ.ย.) สภาฯเพิ่งจะผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2568 วาระแรกในชั้นรับหลักการ แต่รัฐบาลขอบคุณเหมือนผ่านในวาระ 3 ไปแล้ว แต่มีสิ่งที่บอกให้เรารู้ว่าเสียงรัฐบาล315เสียงยังมั่นคงในแง่ของจำนวน สส.ยังมีอยู่ แต่ในแง่ของสถานการณ์ต่อจากนี้ยังไม่แน่ กรณีที่ 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นสอบจริยธรรมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี คงต้องรอดูว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของสส. แต่สส.กลับไม่ยื่น อาจจะเป็นด้วยความสุจริตใจเห็นว่าไม่ผิด ก็ไม่เป็นไร แต่ก็น่าเคลือบแคลงสงสัยว่าการแต่งตั้งรัฐมนตรี หรือแม้แต่กระทั่งการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรฝ่ายตุลาการ กฎหมายกำหนดให้ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นหัวข้อที่ระบุอยู่ในแทบจะทุกตำแหน่ง
"กรณีที่นายเศรษฐาโดนร้องเรียน หากพูดกันจริงๆแบบให้ความเป็นธรรม ผมว่าท่านรู้ และท่านคงไม่อยากตั้ง แต่ผมว่าคนที่ขอมาเหนือกว่าท่าน ก็เลยต้องยอมตั้งคนนี้เข้าไป นายกฯไม่ใช่ว่ารู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องหนึ่งที่ท่านไม่รู้แล้วทำ คือการแต่งตั้งผู้กำกับตำรวจ ที่ท่านเคยพูดในที่ประชุมสส.พรรคว่า สำหรับผู้กำกับฯที่สส.ขอไปนั้น ได้ไม่ทุกคน เพราะมากเหลือเกิน ซึ่งนั่นผิด ทำไม่ได้ ผมยังให้ความเห็นไปว่าน่าจะมีใครเตือนนายกฯ ว่าเรื่องนี้ผิดกฎหมาย แต่รีบปฏิเสธกัน ผมเชื่อว่าเรื่องนี้นายกไม่รู้ ไม่รู้ว่าสส.ของพรรคไปวิ่งเต้น เอาตำแหน่ง ข้าราชการไม่ได้” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากการมีบทบาทของสส.ในสภาฯ ไม่ได้มีผลกระทบทำให้หุ้นตก หรือทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่น่าเชื่อมั่น แต่มันเป็นเรื่องของพฤติกรรมของฝ่ายรัฐบาลเอง ที่ต้องมารับผิดชอบ 4 ปีที่ตนเป็นประธานสภาฯ เมื่อเทียบการอภิปรายในสภาฯรอบนี้ ต่างกันโดยสิ้นเชิง เบาหวิว ไม่มีการพาดพิงรุนแรงต่อนายกฯ แต่ยุคของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ขยับหน่อยไม่ได้เลย โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มี ซึ่งขณะนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ถูกตั้งฉายา นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และครั้งนี้มีเพียงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งฉายา ให้นายเศรษฐาว่านักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ
นายชวน กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม 92ปีประชาธิปไตยเติบโตขึ้นมาตามลำดับ ในสภาฯเรา ปัจจุบันมีคนมีความรู้เยอะมาก ความเปลี่ยนแปลงเป็นบวกมีเยอะ แต่มีทางลบด้วยก็คือธุรกิจทางการเมืองเข้ามา เหมือนโรคอุบัติใหม่ ที่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ซื้อเสียง ซื้อสส. ซื้อพรรคการเมืองให้ใหญ่ขึ้น และคนเหล่านั้นไม่ยอมรับว่าใช้ประชาธิปไตยเป็นบันไดไปขึ้นสู่อำนาจ เมื่อสิ่งนี้เข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องคู่กับเลือกตั้ง นักการเมืองต้องมีเงินเพื่อมาเลือกตั้งให้ชนะ ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกระดับตามมา ประชาชนเบื่อหน่าย
“ธุรกิจการเมืองจะทำให้ประชาธิปไตยที่เรามุ่งหวังตามอุดมคติเกิดขึ้นได้ยาก ผมจึงบอกว่าแตะตรงไหนก็เจอคอร์รัปชั่น ไม่สามารถแก้อะไรได้คุณภาพประเทศลดลง งบประมาณไปที่พัฒนาบ้านเมืองถนนหนทางหรืออะไรก็ตามแทนที่จะมั่นคงถาวรยาวนาน ใช้ได้เพียงระยะหนึ่งก็เสื่อมโทรมทรุดไปแล้ว เพราะการคอร์รัปชั่นมีผลประโยชน์ที่ต้องจ่าย แต่ผมขอว่าคนไทยอย่าเพิ่งสิ้นหวัง อย่าเพิ่งเปลี่ยนค่านิยมที่ไม่ยอมรับคนโกงบ้านโกงเมือง” นายชวน กล่าว